วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2562

พระพุทธเจ้ามองความทุกข์อย่างไร สนทนาธรรมใต้ศาลาไม้วัดนาป่าพง วันเสาร์ที่...



พระพุทธเจ้ามองความทุกข์อย่างไร สนทนาธรรมใต้ศาลาไม้วัดนาป่าพง วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พศ 2562
พระพุทธเจ้ามอง #ความทุกข์.อย่างไร.เพลิน.จึงทุกข์.เพลินคืออุปาทานในอารมณ์.(ความคิด).จึง #ทุกข์เพราะความคิด
CR. ช่องยูทูป วัดนาป่าพง nirdukkha
https://www.youtube.com/channel/UCfos2v7ANVBaw29i2KWlQpQ
ความเพลินในอุปาทานขันธ์ 5 ย่อมเป็นทุกข์
🙏🙏🙏
ภิกษุ ท. ! ความเป็นสมุทัยแห่งรูป เป็นอย่างไรเล่า ?
ความเป็นสมุทัยแห่งเวทนา เป็นอย่างไรเล่า ?
ความเป็นสมุทัยแห่งสัญญา เป็นอย่างไรเล่า ?
ความเป็นสมุทัยแห่งสังขารทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
และความเป็นสมุทัยแห่งวิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ?
🙏🙏🙏
ภิกษุ ท. ! บุคคลในโลกนี้ ย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ําสรรเสริญ ย่อมเมาหมกอยู่.
เขาเพลิดเพลิน พร่ําสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งอะไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! เขา ย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ําสรรเสริญ ย่อมเมาหมกอยู่ซึ่งรูป.
เมื่อเขาเพลิดเพลิน พร่ําสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งรูป,
นันทิ (ความเพลิน) ย่อมบังเกิดขึ้น.
ความเพลินใดในรูป ความเพลินนั้น เป็นอุปาทาน.
เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น
ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
🙏🙏🙏
ภิกษุ ท. ! เขา ย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ําสรรเสริญ ย่อมเมาหมกอยู่ ซึ่งเวทนา.
เมื่อเขาเพลิดเพลิน พร่ําสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งเวทนา,
นันทิ (ความเพลิน) ย่อมบังเกิดขึ้น.
ความเพลินใดในเวทนาความเพลินนั้น เป็นอุปาทาน.
เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และ อุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
🙏🙏🙏
ภิกษุ ท. ! เขา ย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ําสรรเสริญ ย่อมเมาหมกอยู่ ซึ่งสัญญา.
เมื่อเขาเพลิดเพลิน พร่ําสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งสัญญา,
นันทิ(ความเพลิน) ย่อมบังเกิดขึ้น.
ความเพลินใดในสัญญา ความเพลินนั้น เป็นอุปาทาน.
เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และ อุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้
🙏🙏🙏
ภิกษุ ท. ! เขา ย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ําสรรเสริญ ย่อมเมาหมกอยู่ ซึ่งสังขารทั้งหลาย.
เมื่อเขาเพลิดเพลิน พร่ําสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งสังขารทั้งหลาย,
นันทิ (ความเพลิน) ย่อมบังเกิดขึ้น,
ความเพลินใดในสังขารทั้งหลาย ความเพลินนั้น เป็นอุปาทาน.
เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
🙏🙏🙏
ภิกษุ ท. ! เขาย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ําสรรเสริญ
ย่อมเมาหมกอยู่ ซึ่งวิญญาณ.
เมื่อเขาเพลิดเพลิน พร่ําสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งวิญญาณ,
นันทิ(ความเพลิน) ย่อมบังเกิดขึ้น.
ความเพลินใดในวิญญาณ ความเพลินนั้น เป็นอุปาทาน.
เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
เพราะชาติเป็นปัจจัย,
ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น
ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
- ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๘/๒๘.
💞💞💞
ภิกษุ ท. ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ในโลกนี้
ย่อมตามเห็นซึ่ง รูป ว่า
นั่นของเรา (เอตํ มม),
นั่นเป็นเรา (เอโสหมสฺมิ),
นั่นเป็นตัวตนของเรา (เอโส เม อตฺตา) ดังนี้.
🙏🙏🙏
รูปนั้น ย่อมแปรปรวน เป็นอย่างอื่นแก่เขา ;
โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส
ย่อมปรากฏแก่เขา
เพราะความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นแห่งรูป.
(ในกรณีแหงเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็ไดตรัสอยางเดียวกัน).
- ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๔/๓๔.
🙏🙏🙏
🙏🙏🙏
ถูกแล้ว ถูกแล้ว อานนท์ !
ตามที่สารีบุตรเมื่อตอบปัญหา
ในลักษณะนั้นเช่นนั้น,
ชื่อว่าได้ตอบโดยชอบ :
🙏🙏🙏
อานนท ! ความทุกข์นั้น
เรากล่าวว่า เป็นสิ่งที่อาศัยปัจจัย
อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วเกิดขึ้น
(เรียกว่าปฏิจจสมุปปันนธรรม).
ความทุกข์นั้นอาศัยปัจจัยอะไรเลา ?
ความทุกข์นั้น
อาศัยปัจจัยคือ ผัสสะ,
ผู้กล่าวอย่างนี้แล
ชื่อว่า กล่าวตรงตามที่เรากล่าว
ไม่เป็นการกล่าวตู่เราด้วยคําไม่จริง ;
แต่เป็นการกล่าวโดยถูกต้อง
และสหธรรมิกบางคนที่กล่าวตาม
ก็จะไม่พลอยกลายเป็นผู้ควรถูกติไปด้วย.
อานนท ! ในบรรดาสมณพราหมณ์
ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมทั้งสี่พวกนั้น :
สมณพราหมณ ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมพวกใด
🙏🙏🙏
ย่อมบัญญัติความทุกข์
ว่าเป็นสิ่งที่ตนทําเอาด้วยตนเอง,
แม้ความทุกขที่พวกเขาบัญญัตินั้น
ก็ยังต้องอาศัยผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีได้
🙏🙏🙏
สมณพราหมณ์ที่กล่าวสอน
เรื่องกรรมพวกใด
ย่อมบัญญัติความทุกข์
ว่าเป็นสิ่งที่ผู้อื่นทําให้,
แม้ความทุกขที่พวกเขาบัญญัตินั้น
ก็ยังต้องอาศัยผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีได้
🙏🙏🙏
สมณพราหมณ์ที่กล่าวสอน
เรื่องกรรมพวกใด
ย่อมบัญญัติความทุกข์
ว่าเป็นสิ่งที่ตนทําเอาด้วยตนเองด้วย ผู้อื่นทําให้ด้วย
แม้ความทุกข์
ที่พวกเขาบัญญัตินั้น
ก็ยังต้องอาศัยผัสสะเป็นปัจจัย
จึงเกิดมีได้ ถึงแม้สมณพราหมณ์
ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมพวกใด
ย่อมบัญญัติความทุกข์ ว่า
เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ทําเอง หรือใครทําให้ก็เกิดขึ้นได้ ก็ตาม.
แม้ความทุกข์ที่พวกเขาบัญญัตินั้น
ก็ยังต้องอาศัยผัสสะเป็นปัจจัย
จึงเกิดมีไดอยูนั่นเอง.
- นิทาน. สํ. ๑๖/๔๐/๗๕.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น