มารู้จัก อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์.สักกายะทิฏฐิ.ทุกขอริยสัจฯ ข้อแรกเลย
(ความเป็นสัตว์ปรากฏอย่างไร(ต้องรู้จักอริยสัจครบองค์ ๔ ถึงจะเป็นสัมมา ทิฏฐิ)
https://www.youtube.com/watch?v=tW9ZdkDODmU&list=PLnDrrN--tZEBN6qgib94tppCdZBTRqqRg&index=26&t=0s
ก็โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ เป็นไฉน
อุปาทานขันธ์ คือรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
เหล่านี้เรียกว่า โดยย่อ อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นทุกข์ ฯ
-------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรียกว่า ***ทุกขอริยสัจ ฯ***
-------------
พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๐
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค
หน้าที่ ๒๒๖/๒๖๑ ข้อที่ ๒๙๔
-------------
อ่านพุทธวจน เพิ่มเติมได้จากโปรแกรม E-Tipitaka
http://etipitaka.com/read?keywords=แตกทำลาย+&language=thai&number=227&volume=10#
------------
ทุกขอริยสัจ ฯ..***
***************************************************
[๒๙๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุพิจารณาเห็นธรรมในธรรม คืออริยสัจ ๔
อยู่ ภิกษุพิจารณาเห็นธรรมในธรรมคืออริยสัจ ๔ อยู่ อย่างไรเล่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้
_________
ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า...
นี้ทุกข์
นี้ทุกขสมุทัย
นี้ทุกขนิโรธ
นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ฯ
_______
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ทุกขอริยสัจเป็นไฉน
แม้ชาติก็เป็นทุกข์
แม้ชราก็ เป็นทุกข์
แม้มรณะก็เป็นทุกข์
แม้โสกะ ปริเทวะทุกข์โทมนัสอุปายาส ก็เป็น ทุกข์
แม้ความประจวบกับสิ่งไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์
แม้ความพลัดพรากจากสิ่ง ที่รักก็เป็นทุกข์
ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้ แม้อันนั้นก็เป็นทุกข์
โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ทั้ง ๕ เป็นทุกข์ ฯ
_______
[๒๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ชาติเป็นไฉน
ความเกิด
ความบังเกิด
ความหยั่งลงเกิด
เกิดจำเพาะ
ความปรากฏแห่งขันธ์
ความได้อายตนะครบ ใน หมู่สัตว์นั้นๆ
ของเหล่าสัตว์นั้นๆ อันนี้เรียกว่าชาติ ฯ
_______
ก็ชราเป็นไฉน
ความแก่
ภาวะของความแก่ ฟันหลุด ผมหงอก หนังเป็นเกลียว
ความเสื่อมแห่งอายุ ความแก่หง่อมแห่งอินทรีย์ ในหมู่สัตว์นั้นๆ
ของเหล่าสัตว์นั้นๆ อันนี้
เรียกว่าชรา ฯ
_______
ก็มรณะเป็นไฉน
ความเคลื่อน ภาวะของความเคลื่อน ความแตกทำลาย
ความหายไป มฤตยู ความตาย ความทำกาละ
ความทำลายแห่งขันธ์ ความทอดทิ้งซากศพไว้
ความขาดแห่งชีวิตินทรีย์ จากหมู่สัตว์นั้นๆ ของเหล่าสัตว์ นั้นๆ
อันนี้เรียกว่ามรณะ ฯ
_______
ก็โสกะเป็นไฉน
ความแห้งใจ กิริยาที่แห้งใจ ภาวะแห่งบุคคลผู้แห้งใจ
ความผาก ณ ภายใน ความแห้งผาก ณ ภายใน
ของบุคคลผู้ประกอบด้วยความ พิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผู้ถูกธรรมคือทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งกระทบแล้ว อันนี้
เรียกว่าโสกะ ฯ
________
ก็ปริเทวะเป็นไฉน
ความคร่ำครวญ ความร่ำไรรำพัน กิริยาที่คร่ำครวญ
กิริยาที่ร่ำไรรำพัน ภาวะของบุคคลผู้คร่ำครวญ
ภาวะของบุคคลผู้ร่ำไรรำพัน ของ บุคคล
ผู้ประกอบด้วยความพิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผู้ถูกธรรมคือทุกข์อย่างใดอย่าง หนึ่งกระทบแล้ว
อันนี้เรียกว่าปริเทวะ ฯ
_________
ก็ทุกข์เป็นไฉน
ความลำบากทางกาย ความไม่สำราญทางกาย
ความ เสวยอารมณ์อันไม่ดีที่เป็นทุกข์เกิดแต่กายสัมผัส
อันนี้เรียกว่าทุกข์ ฯ
__________
ก็โทมนัสเป็นไฉน
ความทุกข์ทางจิต ความไม่สำราญทางจิต ความเสวยอารมณ์
อันไม่ดีที่เป็นทุกข์เกิดแต่มโนสัมผัส
อันนี้เรียกว่าโทมนัส ฯ
___________
ก็อุปายาสเป็นไฉน
ความแค้น ความคับแค้น ภาวะของบุคคลผู้แค้น
ภาวะของบุคคลผู้คับแค้น
ของบุคคลผู้ประกอบด้วยความพิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผู้ถูกธรรมคือทุกข์อย่างใด
อย่างหนึ่งกระทบแล้ว อันนี้เรียกว่าอุปายาส ฯ
___________
ก็ความประจวบกับสิ่งไม่เป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ เป็นไฉน
ความประสบ ความพรั่งพร้อม ความร่วม ความระคน
ด้วยรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
อันไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจ
หรือด้วยบุคคลผู้ปรารถนาสิ่งที่ไม่เป็น ประโยชน์
ปรารถนาสิ่งที่ไม่เกื้อกูลปรารถนาความไม่ผาสุก
ปรารถนาความไม่ เกษมจากโยคะ ซึ่งมีแก่ผู้นั้น อันนี้เรียกว่า
ความประจวบกับสิ่งไม่เป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ฯ
___________
ก็ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ก็เป็นทุกข์ เป็นไฉน
ความไม่ประสบ ความไม่พรั่งพร้อม ความไม่ร่วม
ความไม่ระคน ด้วยรูป เสียง กลิ่น รส
โผฏฐัพพะ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ
หรือด้วยบุคคลผู้ปรารถนาประโยชน์
ปรารถนาสิ่งที่เกื้อกูล ปรารถนาความผาสุก
ปรารถนาความเกษมจาก โยคะ คือ
มารดา บิดา พี่ชาย น้องชาย พี่หญิง น้อง
หญิง มิตร อมาตย์ หรือ ญาติสาโลหิต ซึ่งมีแก่ผู้นั้น อันนี้เรียกว่า
ความพลัดพรากจากสิ่งที่รักก็ เป็นทุกข์ ฯ
____________
ก็ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้ แม้อันนั้น ก็เป็นทุกข์ เป็นไฉน
ความปรารถนา ย่อมบังเกิดแก่สัตว์ผู้มีความเกิดเป็นธรรมดา
อย่างนี้ว่า โอหนอ
ขอเราไม่พึงมี...ความ เกิด.....เป็นธรรมดา
ขอความเกิดอย่ามีมาถึงเราเลย
ข้อนั้นสัตว์ไม่พึงได้สมความ ปรารถนา
แม้ข้อนี้ ก็ชื่อว่าปรารถนา สิ่งใดไม่ได้ แม้อันนั้นก็เป็นทุกข์
_____________
ความ ปรารถนาย่อมบังเกิดแก่สัตว์ผู้มีความแก่เป็นธรรมดา
อย่างนี้ว่า โอหนอ
ขอเรา ไม่พึงมี...ความแก่....เป็นธรรมดา
ขอความแก่อย่ามีมาถึงเราเลย ข้อนั้น
สัตว์ไม่พึงได้ สมความปรารถนา แม้ข้อนี้ ก็ชื่อว่า
ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้ แม้อันนั้นก็เป็นทุกข์
______________
ความปรารถนาย่อมบังเกิดแก่สัตว์ผู้มี..ความเจ็บ..เป็นธรรมดาอย่างนี้ว่า
โอหนอ ขอเราไม่พึงมี..ความเจ็บ...เป็นธรรมดา
ขอ..ความเจ็บ..อย่ามีมาถึงเราเลย
ข้อนั้นสัตว์ไม่พึง ได้สมความปรารถนา แม้ข้อนี้
ก็ชื่อว่า ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้ แม้อันนั้นก็เป็นทุกข์
_______________
ความปรารถนาย่อมบังเกิดแก่สัตว์ผู้มี..ความตาย..เป็นธรรมดาอย่างนี้ว่า
โอหนอ ขอเราไม่พึงมี..ความตาย..เป็นธรรมดา
ขอ..ความตาย..อย่ามีมาถึงเราเลย
ข้อนั้นสัตว์ ไม่พึงได้สมความปรารถนา แม้ข้อนี้ ก็ชื่อว่า
ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้ แม้อันนั้นก็ เป็นทุกข์
----------------
ความปรารถนา ย่อมบังเกิดแก่สัตว์ผู้มี..โสกปริเทวทุกขโทมนัสอุปายาส..
เป็นธรรมดา อย่างนี้ว่า โอหนอ
ขอเราไม่พึง..มีโสกปริเทวทุกขโทมนัสอุปายาส..เป็นธรรมดา
ขอ..โสกปริเทว ทุกขโทมนัสอุปายาส อย่ามีมาถึงเราเลย
ข้อนั้นสัตว์ ไม่พึงได้สมความปรารถนา แม้ข้อนี้ ก็ชื่อว่า
ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้ แม้อันนั้น ก็เป็นทุกข์ ฯ
-----------------
ก็โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ เป็นไฉน
อุปาทานขันธ์ คือรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
เหล่านี้เรียกว่า โดยย่อ อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นทุกข์ ฯ
-------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรียกว่า ***ทุกขอริยสัจ ฯ***
-------------
พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๐
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค
หน้าที่ ๒๒๖/๒๖๑ ข้อที่ ๒๙๔
Cr.วัดนาป่าพง www.watnapp.com
ฟังพุทธวจนเนืองๆ ไปแต่ทางเจริญไม่ไปทางเสื่อมถึงแต่ความเจริญอย่างเดียวไม่ถึงความเสื่อม(ฟังนำไปปฏิบัติพระพุทธเจ้าพูดจากการปฏิบัติของท่านเอง)
(บาลี) นิทาน. สํ. ๑๖/๗๙/๑๔๘👼👼👼
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น