วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพื่อเข้าใจ จิต มโน วิญญาณ ด้วยการทำสมาธิ สนทนาธรร...



อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพื่อเข้าใจ จิต มโน วิญญาณ ด้วย การทำสมาธิ(สมถะ วิปัสสนา)🙏🙏🙏 สนทนาธรรมวันเสาร์ที่ 2018 07 14
***องค์ประกอบของผัสสะ
*** จิต เกิด ดับ ตลอดเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว
*** คิดถึงสิ่งใด ดำริถึงสิ่งใด(จิตไปรับรู้อารมณ์อื่น)
*** ผู้ยึดติด ไปยึดจิตดวงใหม่ ผู้เข้าไปหาย่อมไมหลุดพ้น ผู้ไม่เข้าไปหาย่อมหลุดพ้น
*** จิตเกิด นามรูปเกิด
*** เมื่อละความเพลินจะเห็นนิโรธ
*** ถ้าเราเห็นอนัตตา เราจะมีปัญญาเข้าใจว่า มันไม่ใช้เรา พระสูตรลากกิ้งไม้เอาไปเผา
***นั่งสมาธิแล้วให้ตามเห็นขันธ์ ๕ เป็นของไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา ให้เห็นตามที่เป็นจริง
***ขันธ์ ๕ เป็นอนัตตา จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ไม่มีอะไรอยู่ถาวร
*** ในสังขตะ มีการทำงานกันของวิญญาณกับนามรูป ..สังขารปรุงแต่ง ทั้งวิญญาณและนามรูป
*** วิญญาณฐิติ ๔ ๔ ขันธ์ =ภพ=กรรม
*** สมถะ คือ สงบ การเอาจิตมาตั้งอยู่ในอารมณ์อันเดียวคือ กาย
*** โสดาบันจะรู้ว่า..วิญญาณจะวนอยู่ใน ๔ ธาตุไม่เลยไปจาก ๔ ธาตุนี้
*** ความเผลอไปสำคัญมั่นหมายว่าสิ่งนั้นเป็นตัวตนมารู้ตัวอีกทีคิดไปแล้ว อดีตบ้าง อนาคตบ้าง
*** พระพุทธเจ้าให้ละนันทิ ให้ตั้งไว้ซึ่ง กายคตาสติ เราก็เอาจิตมาอยู่ที่กายอีกครั้งหนึ่ง
***
*** ทำซ้ำไปเรื่อยๆ***
***
***เราก็จะละเอียดขึ้น เห็นเกิดดับได้ชัดเจนขึ้น ศรัทธามากขึ้นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา
***ลักษณะดวงตาเห็นธรรมก็จะมีแก่ผู้มีความเพียรเผากิเลส เจริญสมถะ เจริญวิปัสสนา เห็นเกิด ดับอยู่ตลอด***
*** จนละนันทิได้เร็วดุจกระพริบตา
*** เราต้องทำให้เร็วกว่านั้นขึ้นไปอีก เพื่อให้เห็นทันตรงรอยต่อ
***การจะหลุดพ้นต้องเห็นทันตรงรอยต่อ และขณะที่ จิตนั้น จางคลาย และ ดับไป นั้นคือ เราต้องมี สติ สัมปชัญญะเพียงพอที่จะไม่เกาะ มโน ดวงใหม่ เราต้องนิ่งพอ
***
***ความนิ่ง**ทุกคนมีอยู่แล้ว**
***
แต่เพราะ
***
*** ฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหายังมี ยังปล่อยไม่ได้ ยังละไม่ได้
*** เมื่อ วิญญาณดวงหนึ่งดับ เราก็จะเกาะวิญญาณดวงใหม่ต่อไป
*** มีการใช้ วิญญาณ ใช้จิต อยู่ตลอดเวลา
***
*** ทำแค่นี้**ทำซ้ำ**ทำให้มาก เจริญให้มาก***
***
มรรคแปดมีเท่านี้
***
#การอยู่กับโลกธรรมแปดของอริยบุคคล ผัสสะ ต้องเห็นอริยสัจของผัสสะ
*** สังวร สำรวมอินทรีย์
*** ชีวิตเรามุ่งหวังความหลุดพ้น ไม่ได้มุ่งหวังความสำเร็จทางโลกจริงๆ จังๆ อะไร แต่มันจะเป็นไปเองตามเหตุตามปัจจัยของมัน
*** ความมุ่งหมายของเรา เพื่อละโลก เข้าสู่ความดับเย็น
*** เป็นผู้เฝ้าสังเกตุ ธรรมชาติ นี้ ตามความเป็นจริง
*** เดิน ยืน นั่ง นอน เจริญ สมถะ วิปัสสนา อยู่ตลอด
*** สิ่งที่ทำให้เรา พอใจ ไม่พอใจเยอะมากๆ
*** เราต้องยกระดับตัวเรา..ถอยเข้ามาสู่..**ความนิ่ง**ความว่าง**
*** ถอยออกมาจากอารมณ์ มาสู่อารมณ์ของการภาวนา.
***
***กิจบนโลกใบนี้ที่เรามาทำ***
***
*** จิต มโน วิญญาณ เราก็จะเห็นแต่ช่วงท้ายของมัน ก็ทันแต่จิต ที่มันผูกติดกับอารมณ์ไปแล้ว
*** พระพุทธเจ้าเลยให้เราฝึกจิต อบรมจิต รักษาจิตเอาไว้
*** ตามเห็นอริยสัจของสิ่งนั้น***
***จิตจะน้อมไปเพื่อ ***อมตะธาตุ***
*** มีธรรมชาติที่สงบ ระงับ จากขันธ์ ๕.***
***
***เพ่งดูการเปลี่ยนแปลงของจิต***
***
*************
ฟังพุทธวจนเนืองๆ ไปแต่ทางเจริญไม่ไปทางเสื่อมถึงแต่ความเจริญอย่างเดียวไม่ถึงความเสื่อม(ฟังนำไปปฏิบัติพระพุทธเจ้าพูดจากการปฏิบัติของท่านเอง)
(บาลี) นิทาน. สํ. ๑๖/๗๙/๑๔๘👼👼👼
**********
{{รวมคลิปเดือน กรกฏาคม 61}}
https://www.youtube.com/watch?v=Jypd0ZkF6As&list=PLnDrrN--tZEBXlFUoIOdV5xqRRuTVORe0&index=36&t=0s
***********
คลิปเพจ
https://www.facebook.com/BuddhawajanaBn.312FantaChaleeporn/videos/1905386233104011/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น