วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
มีพระวินัยห้ามภิกขุออกกำลังกายไหม
มีพระวินัยห้ามภิกขุออกกำลังกายไหม[11]
#พุทธานุญาตที่จงกรมและเรือนไฟ
อ้างอิง..หนังสือ.พุทธวจน - อริยวินัย หน้า ๘๒๑
#ทรงแนะข้อตัดสินวินัย ว่าด้วยมหาปเทส 4
รักษาศาสนา..ด้วยการ..ช่วยกันศึกษา..ปฏิบัติ..เผยแผ่..แต่คำตถาคต
เพจ พุทธวจน อริยสัจจากพระโอษฐ์ โดย ตะวัน พุทธวจน BN.4386
https://www.facebook.com/groups/679713432115426/.....
คลิปยูทูป
https://www.youtube.com/watch?v=0IjtPEGeJVM&feature=youtu.be
คลิปเฟสบุ๊ค
https://www.facebook.com/100012502933592/videos/127496314343799/?permPage=1
สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายเกิดความยำเกรง
อยู่ในข้อบัญญัติบางอย่างว่า สิ่งใดที่ทรงอนุญาต
สิ่งใดไม่ทรงอนุญาต พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่า
สิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร
ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้่นไม่ควร แก่เธอทั้งหลาย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่า
สิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร
ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นควร แก่เธอทั้งหลาย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่า
สิ่งนี้ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร
ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้นไม่ควร แก่เธอทั้งหลาย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่า
สิ่งนี้ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร
ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นควร แก่เธอทั้งหลาย.
#พุทธานุญาตที่จงกรมและเรือนไฟ
[๗๙] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถา
ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น
แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตที่จงกรมและเรือนไฟ ฯ
-
[๘๐] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายจงกรมในที่ขรุขระ
เท้าเจ็บ จึงกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำที่จงกรม
ให้เรียบ ฯ
-
[๘๑] สมัยต่อมา ที่จงกรมมีพื้นที่ต่ำ น้ำท่วม ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้ทำที่จงกรมให้สูง ที่ถมพังลง ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
ให้ก่อมูลดินที่ถม ๓ ชนิด
คือ ก่อด้วยอิฐ ๑ ก่อด้วยหิน ๑ ก่อด้วยไม้ ๑
ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงลำบาก ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตบันได ๓ ชนิด
คือ บันไดอิฐ ๑ บันไดหิน ๑ บันไดไม้ ๑
ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงพลัดตก ...
ตรัสว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตราวสำหรับยึด ฯ
-
[๘๒] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายจงกรมอยู่ในที่จงกรม
พลัดตกลงมา
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตรั้วรอบที่จงกรม ฯ
[๘๓] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายจงกรมอยู่กลางแจ้ง
ลำบาก ด้วยหนาวบ้าง ร้อนบ้าง
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตโรงจงกรม
ผงหญ้าที่มุงหล่นเกลื่อนในโรงจงกรม ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้รื้อลงแล้วฉาบด้วยดินทั้งข้างนอกข้างใน
ทำให้มีสีขาว สีดำ สีเหลือง จำหลักเป็นพวงดอกไม้
เครือไม้ ฟันมังกร
ดอกจอกห้ากลีบ ราวจีวร สายระเดียงจีวร ฯ
[๘๔] สมัยนั้น เรือนไฟมีพื้นต่ำไป น้ำท่วมได้ ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ถมพื้นให้สูง
พื้นที่ถมพังลงมา ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้ก่อมูลดินที่ถม ๓ ชนิด
คือ ก่อด้วยอิฐ ๑ ก่อด้วย
หิน ๑ ก่อด้วยไม้ ๑ ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงลำบาก ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตบันได ๓ ชนิด คือ บันไดอิฐ ๑ บันไดหิน ๑ บันไดไม้ ๑ ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงพลัดตกลงมา ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตราว
สำหรับยึด เรือนไฟไม่มีบานประตู ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
บานประตู กรอบเช็ดหน้า
ครกรองเดือยประตู ห่วงข้างบน สายยู ไม้หัวลิง
กลอน ลิ่ม ช่องดาน ช่องสำหรับชักเชือก เชือกสำหรับชัก เชิงฝาเรือนไฟ
ชำรุด ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้ง
หลาย เราอนุญาตให้ก่อให้ต่ำ เรือนไฟไม่มีปล่องควัน ... ตรัสว่า ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตปล่องควัน ฯ
[๘๕] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายทำที่ตั้งเตาไฟ
ไว้กลางเรือนไฟขนาดเล็ก ไม่มีอุปจาร ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำที่ตั้งเตาไฟ
ไว้ส่วนข้างหนึ่ง เฉพาะเรือนไฟขนาดเล็ก เรือนไฟขนาดกว้าง
ตั้งไว้ตรงกลางได้ ไฟ ในเรือนไฟลวกหน้า ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตดินสำหรับทาหน้า
ภิกษุทั้งหลายละลายดินด้วยมือ ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตราง
สำหรับละลายดิน ดินมีกลิ่นเหม็น ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้
อบกลิ่น ฯ
[๘๖] สมัยต่อมา ไฟในเรือนไฟลนกาย ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้ตักน้ำมาไว้มากๆ ภิกษุทั้งหลายใช้ถาดบ้าง
บาตรบ้าง ตักน้ำ ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตที่ขังน้ำ ขันตักน้ำ
เรือนไฟที่มุงด้วยหญ้า ไหม้เกรียม ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้รื้อลงฉาบดินทั้งข้างบน
ข้างล่าง เรือนไฟเป็นตม ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ปูเครื่อง
ลาด ๓ อย่าง คือเครื่องลาดอิฐ ๑ เครื่องลาดหิน ๑
เครื่องลาดไม้ ๑ เรือนไฟ ก็ยังเป็นตมอยู่นั้นเอง ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ชำระล้าง
น้ำขัง ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตท่อระบายน้ำ ฯ
[๘๗] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายนั่งบนพื้นดินในเรือนไฟ
เนื้อตัวคัน ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตตั่งในเรือนไฟ ฯ
[๘๘] สมัยต่อมา เรือนไฟยังไม่มีเครื่องล้อม ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตให้ล้อมรั้ว ๓ อย่าง
คือ รั้วอิฐ ๑ รั้วหิน ๑ รั้วไม้ ๑ ซุ้มไม่มี ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตซุ้ม ซุ้มต่ำไป น้ำท่วมได้ ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำพื้นที่ให้สูง พื้นที่ก่อพัง ... ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ก่อมูลดิน ๓ อย่าง
คือ ก่อด้วยอิฐ ๑ ก่อด้วยหิน ๑ ก่อด้วยไม้ ๑
ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงลำบาก ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตบันได ๓ อย่าง
คือ บันไดอิฐ ๑ บันไดหิน ๑ บันไดไม้ ๑
ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงพลัดตกลงมา ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตราวสำหรับ
ยึด ซุ้มยังไม่มีประตู ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตบานประตู
กรอบเช็ดหน้า ครกรองรับเดือยบานประตู ห่วงข้างบน
สายยู ไม้หัวลิง กลอน
ลิ่ม ช่องดาล ช่องเชือกชัก เชือกชัก ฯ
[๘๙] สมัยต่อมา ผงหญ้าหล่นเกลื่อนซุ้ม ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้รื้อลงฉาบดินทั้งข้างบนข้างล่าง ทำให้มีสีขาว สีดำ สีเหลือง
จำหลักเป็นพวงดอกไม้ เครือไม้ ฟันมังกร
ดอกจอกห้ากลีบ บริเวณเป็นตม ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้โรยกรวดแร่ กรวดแร่ยังไม่เต็ม ...
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้วางศิลาเรียบ น้ำขัง ...
ตรัสว่า ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตท่อระบายน้ำ ฯ
#ผู้ใดชอบธรรมของพระผู้มีพระภาคนั้น ผู้นั้นจงมา
กราบนมัสการ..พระพุทธ..พระธรรม..พระสงฆ์สาวก..ด้วยเศียรเกล้า..
17 มีนาคม · เพจ พุทธวจน อริยสัจจากพระโอษฐ์
พอจ.ท่านเป็นคนที่พามหาชนเข้าเฝ้าพระตถาคตโดยตรง มหาชนข้องใจเรื่องใด ก็เข้าเฝ้าพระองค์ได้ตลอด ท่านตรงไปตรงมา มีแอปพลิเคชั่น ให้เทียบเคียงพระพุทธวจน ด้วย ไม่ปกปิดข่าวสานน์ ไม่ตระหนี่ธรรม
ตะวัน พุทธวจน BN.4386 (( รับชมคลิป พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล.กับการ..เชื่อมโยงพระสูตร..ที่ลึกขึ้นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง.ได้จาก 5 ช่องทาง..สร้างเหตุไปแต่ทางเจริญอย่างเดียว..ไม่ถึงความเสื่อม.. ))
link ;; ทวิตเตอร์ ;; https://twitter.com/fantachaleeporn
link;; G+ ;; https://plus.google.com/u/0/+ChaleepornInrodBNNo312
link;; blogger ;; http://buddhawajana252.blogspot.com/
link ;;ช่อง YouTube; https://www.youtube.com/c/ChaleepornInrodBNNo312
link ;; facebook ; 5 เฟส
เฟส 1 ;; https://www.facebook.com/profile.php?id=100012502933592
เฟส 2 ;; https://www.facebook.com/profile.php?id=100012607659827
เฟส 3 ;; https://www.facebook.com/fata.chalee
เฟส 4 ;; https://www.facebook.com/profile.php?id=100010716036268
เฟส 5 ;; https://www.facebook.com/profile.php?id=100012410853671
เปิดธรรมที่ถูกปิดด้วยพุทธวจน
โดยพอจ.คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาส วัดนาป่าพง ลำลูกกาคลอง10 จังหวัด ปทุมธานี
เพจ พุทธวจน อริยสัจจากพระโอษฐ์
โดย : ตะวัน พุทธวจน BN.4386
https://www.facebook.com/groups/679713432115426/
***รักษาศาสนาพุทธ ด้วยการช่วยกัน
ศึกษา ปฏิบัติ เผยแผ่ แต่คำตถาคต***
ขอบพระคุณเว็ปไซต์จากวัดนาป่าพง
http://watnapp.com/ และ คุณป๊อก บางกรวย
**********
******
#ทำอย่างไรผู้ไม่สมบูรณ์ #จะไปแต่ทางเจริญไม่เสื่อมเลย
บุคคลใด...
#มากระทำกิจเนื่องด้วยการฟัง
#มากระทำกิจเนื่องด้วยความเป็นพหูสูต
#มาแทงตลอดอย่างดีด้วยทิฏฐิ
#บุคคลผู้นี้จะไปแต่ทางเจริญอย่างเดียว ไม่ไปทางเสื่อมเลย...
----------
#บุคคล๖จำพวก
(1,2) เป็นผู้งดเว้นจากบาป มีการอยู่ร่วม เป็นสุข
-พวกชนที่ประพฤติพรหมจรรย์ร่วมกัน
ย่อมยินดียิ่งด้วยการอยู่ร่วมกัน
(3,4) -มีความโกรธและความถือตัว บางครั้งบาง คราว
-โลกธรรมย่อมเกิดแก่เขา
(5,6) มีความโกรธและความถือตัว บางครั้ง บางคราว
-วจีสังขารย่อมเกิดแก่เขา
-------------------------------
-เขาได้ทำกิจแม้ด้วยการฟัง
-ได้ทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต
-ได้แทงตลอดแม้ด้วยทิฐิ ย่อมได้วิมุตติแม้ที่เกิดในสมัย
เมื่อตายไปแล้ว เขาย่อมไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม
เป็นผู้ถึงทางเจริญ ไม่เป็นผู้ถึงทางเสื่อม
----------------------------
-เขาไม่ได้กระทำกิจแม้ด้วยการฟัง
-ไม่ได้กระทำกิจแม้ด้วย ความเป็นพหูสูต
-ไม่ได้แทงตลอดแม้ด้วยทิฐิ
-ย่อมไม่ได้วิมุตติแม้ที่เกิดในสมัย
เมื่อตายไป แล้ว เขาย่อมไปทางเสื่อม
ไม่ไปทางเจริญ เป็นผู้ถึงทางเสื่อม ไม่เป็นผู้ถึงทางเจริญ ฯ
--------------------------------
พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๒
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
หน้าที่ ๓๑๘/๔๐๗ข้อที่ ๓๑๕
-------------------------------
อ่านพุทธวจน เพิ่มเติมได้จาก โปรแกรม E-Tipitaka
http://etipitaka.com/read…
-----------------------------
ฟังพุทธวจน บรรยายได้ที่ www.watnapp.com
*****
----------------
ศึกษา พุทธวจน(คำของพระพุทธเจ้า)ได้ที่นี่
http://www.buddhakos.org/
http://watnapp.com/
http://media.watnapahpong.org/
http://www.buddhaoat.org/
******
#ธรรมเทศนาของภิกษุชนิดไร บริสุทธิ์ ..
"พระผู้มีพระภาคได้ตรัสดังนี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งมีความคิดอย่างนี้ว่า โอหนอ ชนทั้งหลายพึงฟังธรรมของเรา ก็แลครั้นฟังแล้วพึงเลื่อมใสซึ่งธรรม ผู้ที่เลื่อมใสแล้วเท่านั้น จะพึงทำอาการของผู้เลื่อมใสต่อเราดังนี้ ย่อมแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น ภิกษุทั้งหลาย ธรรมเทศนาของภิกษุอย่างนี้ไม่บริสุทธิ์
ส่วนภิกษุใดแล เป็นผู้มีความคิดอย่างนี้ว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีแล้ว เป็นข้อปฏิบัติอันผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบ
ด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามาในตน อันวิญญูชนจะพึงรู้เฉพาะตนโอหนอ ชนทั้งหลายพึงฟังธรรมของเรา ก็แลครั้นฟังแล้ว จะพึงรู้ทั่วถึงธรรมก็แลครั้นรู้ทั่วถึงแล้ว จะพึงปฏิบัติเพื่อความเป็นอย่างนั้น ดังนี้ จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น
อาศัยความที่แห่งพระธรรมเป็นธรรมอันดี จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น
อาศัยความกรุณา จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น
อาศัยความเอ็นดู จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น
อาศัยความอนุเคราะห์ จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น
ด้วยประการฉะนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเทศนาของภิกษุเห็นปานนี้แล บริสุทธิ์ ฯ"
*******************
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘
สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
๓. จันทูปมสูตร
*****
-บาลี มู. ม. ๑๒/๔๘๗/๔๕๔.
#ภิกษุทั้งหลาย ! ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ผู้ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกคนที่ควรฝึก ไม่มีใครยิ่งกว่า เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้เบิกบานแล้วจำแนกธรรมออกสั่งสอนสัตว์.
ภิกษุทั้งหลาย ! ตถาคตนั้น ได้ทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้กับทั้งเทวดา มาร พรหม ซึ่งหมู่สัตว์ กับทั้งสมณพราหมณ์ พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้แจ้งตาม.
ตถาคตนั้น แสดงธรรมไพเราะ ในเบื้องต้น ในท่ามกลาง และในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถะ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง.
-บาลี มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๑๗/๗๔๐.
#อานนท์ ! พวกเธอทั้งหลาย จงมีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ อย่าเอาสิ่งอื่นเป็นสรณะเลย จงมีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ อย่ามีสิ่งอื่นเป็นสรณะเลย.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น