วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558
พุทธวจน faq จิตหดหู่ แก้อย่างไร
อัคคิสูตร | เรากล่าวสติแลว่า มีประโยชน์ในที่ทั้งปวง.
คลิปแสดงธรรมโดย พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล วัดนาป่าพง
Fanta Chaleeporn
17 มกราคม · มีการแก้ไข · ·
https://www.youtube.com/watch?v=BM5FqHXPwV0
#เจริญโภชฌงค์ตามกาล
ครั้งนั้น ภิกษุเป็นอันมาก เวลาเช้า นุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังพระนครสาวัตถี
(ความต่อไปเหมือนปริยายสูตรข้อ ๕๔๗-๕๕๐)
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกผู้มีวาทะอย่างนี้
ควรเป็นผู้อันเธอทั้งหลายพึงถามอย่างนี้ว่า
ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย
สมัยใด จิตหดหู่
สมัยนั้น มิใช่กาลเพื่อเจริญโพชฌงค์เหล่าไหน
เป็นกาลเพื่อเจริญโพชฌงค์เหล่าไหน?
สมัยใด จิตฟุ้งซ่าน
สมัยนั้น มิใช่กาลเพื่อเจริญโพชฌงค์เหล่าไหน
เป็นกาลเพื่อเจริญโพชฌงค์เหล่าไหน?
พวกอัญญเดียร์ถีย์ปริพาชกถูกเธอทั้งหลายถามอย่างนี้แล้ว
จักแก้ไม่ได้เลย
และจักถึงความอึดอัดอย่างยิ่ง ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะเป็นปัญหาที่ถามในฐานะมิใช่วิสัย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เรายังไม่แลเห็นบุคคลในโลก
พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก
ในหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์
เทวดาและมนุษย์
ที่จะยังจิตให้ยินดีด้วยการแก้ปัญหาเหล่านี้
เว้นเสียจากตถาคต สาวกของตถาคต
หรือผู้ที่ฟังจากตถาคต หรือจากสาวกของตถาคตนั้น.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็สมัยใด จิตหดหู่
สมัยนั้น มิใช่กาลเพื่อเจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์
มิใช่กาลเพื่อเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์
ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะจิตหดหู่
จิตที่หดหู่นั้น ยากที่จะให้ตั้งขึ้นได้ด้วยธรรมเหล่านั้น เปรียบเหมือนบุรุษต้องการจะก่อไฟดวงน้อย
ให้ลุกโพลง เขาจึงใส่หญ้าสด โคมัยสด
ไม้สด พ่นน้ำ และโรยฝุ่นลงในไฟนั้น
บุรุษนั้นจะสามารถก่อไฟดวงน้อย
ให้ลุกโพลงขึ้นได้หรือหนอ?
ภิ. ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า.
พ. ฉันนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย
สมัยใด จิตหดหู่
สมัยนั้นมิใช่กาลเพื่อเจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์
มิใช่กาลเพื่อเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์
มิใช่กาลเพื่อเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์
ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะจิตหดหู่
จิตที่หดหู่นั้น ยากที่จะให้ตั้งขึ้นได้ด้วยธรรมเหล่านั้น.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็สมัยใด จิตหดหู่
สมัยนั้น เป็นกาลเพื่อเจริญธัมมวิจยสัมโพชฌงค์
เป็นกาลเพื่อเจริญวิริยสัมโพชฌงค์
เป็นกาลเพื่อเจริญปีติสัมโพชฌงค์
ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะจิตหดหู่
จิตที่หดหู่นั้น ให้ตั้งขึ้นได้ง่ายด้วยธรรมเหล่านั้น เปรียบเหมือนบุรุษต้องการจะก่อไฟดวงน้อย
ให้ลุกโพลง เขาจึงใส่หญ้าแห้ง โคมัยแห้ง
ไม้แห้ง เอาปากเป่าและไม่โรยฝุ่นในไฟนั้น
บุรุษนั้นสามารถจะก่อไฟดวงน้อย
ให้ลุกโพลงขึ้นได้หรือหนอ?
ภิ. ได้ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ฉันนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย
สมัยใด จิตหดหู่
สมัยนั้นเป็นกาลเพื่อเจริญธัมมวิจยสัมโพชฌงค์
เป็นกาลเพื่อเจริญวิริยสัมโพชฌงค์
เป็นกาลเพื่อเจริญปีติสัมโพชฌงค์
ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะจิตหดหู่
จิตที่หดหู่นั้น ให้ตั้งขึ้นได้ง่ายด้วยธรรมเหล่านั้น.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สมัยใด จิตฟุ้งซ่าน
สมัยนั้น มิใช่กาลเพื่อเจริญธัมมวิจยสัมโพชฌงค์
มิใช่กาลเพื่อ เจริญวิริยสัมโพชฌงค์
มิใช่กาลเพื่อเจริญปีติสัมโพชฌงค์
ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะจิตฟุ้งซ่าน จิตฟุ้งซ่านนั้น
ยากที่จะให้สงบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น
เปรียบเหมือนบุรุษต้องการจะดับไฟกองใหญ่
เขาจึงใส่หญ้าแห้ง โคมัยแห้ง
ไม้แห้งเอาปากเป่า
และ ไม่โรยฝุ่นลงไปในกองไฟใหญ่นั้น
บุรุษนั้นสามารถจะดับไฟกองใหญ่ได้หรือหนอ?
ภิ. ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า.
พ. ฉันนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย สมัยใด
จิตฟุ้งซ่าน
สมัยนั้นมิใช่กาลเพื่อเจริญธัมมวิจยสัมโพชฌงค์
มิใช่กาลเพื่อ เจริญวิริยสัมโพชฌงค์
มิใช่กาลเพื่อเจริญปีติสัมโพชฌงค์
ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะจิตฟุ้งซ่าน
จิตที่ฟุ้งซ่านนั้น ยากที่จะให้สงบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สมัยใด จิตฟุ้งซ่าน
สมัยนั้น เป็นกาลเพื่อ เจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์
เป็นกาลเพื่อเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์
เป็นกาลเพื่อเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์
ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะจิตฟุ้งซ่าน
จิตที่ฟุ้งซ่านนั้น ให้สงบได้ง่ายด้วยธรรมเหล่านั้น เปรียบเหมือนบุรุษต้องการจะดับไฟกองใหญ่
เขาจึงใส่หญ้าสด โคมัยสด ไม้สด พ่นน้ำ
และโรยฝุ่นลงในกองไฟใหญ่นั้น
บุรุษนั้นจะสามารถดับกองไฟกองใหญ่นั้น
ได้หรือหนอ?
ภิ. ได้ พระเจ้าข้า.
พ. ฉันนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย
สมัยใด จิตฟุ้งซ่าน
สมัยนั้นเป็นกาลเพื่อ เจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์
เป็นกาลเพื่อเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์
เป็นกาลเพื่อเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์
ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะจิตฟุ้งซ่าน
จิตที่ฟุ้งซ่านนั้น ให้สงบได้ง่ายด้วยธรรมเหล่านั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
-
เรากล่าว
#สติแลว่ามีประโยชน์ในที่ทั้งปวง.
-
(ภาษาไทย) มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๓๘/๕๖๘.
http://etipitaka.com/read?language=thai&number=138&volume=19
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น