วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2558

ดิรัจฉานวิชา

ก่อนฉัน วัดนาป่าพง
พรหมชาลสูตร
(พระสูตรบทนี้พระตถาคตตรัสเรื่องติรัจฉานวิชาไว้อย่างละเอียด)
****************************** 
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! 
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อปุถุชนกล่าวชมตถาคต
พึงกล่าวเช่นนี้ว่า
พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ
โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้

พรหมชาลสูตร(คัดลอกมาบางส่วน)
*************************
มหาศีล
ติรัจฉานวิชา
[๑๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อปุถุชนกล่าวชมตถาคต
พึงกล่าวเช่นนี้ว่า
๑. พระสมณโคดม
เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้
คือ ทายอวัยวะ
ทายนิมิต
ทายอุปบาต
ทำนายฝัน
ทำนายลักษณะ
ทำนายหนูกัดผ้า
ทำพิธีบูชาไฟ
ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน
ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ
ทำพิธีซัดรำบูชาไฟ
ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ
ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ
ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ
ทำพิธีเสกเป่าบูชาไฟ
ทำพลีกรรมด้วยโลหิต
เป็นหมอดูอวัยวะ
ดูลักษณะที่บ้าน
ดูลักษณะที่นา
เป็นหมอปลุกเสก
เป็นหมอผี
เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน
เป็นหมองู
เป็นหมอยาพิษ
เป็นหมอแมลงป่อง
เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด
เป็นหมอทายเสียงนก
เป็นหมอทางเสียงกา
เป็นหมอทายอายุ
เป็นหมอเสกกันลูกศร
เป็นหมอทายเสียงสัตว์.

[๒๐] ๒. พระสมณโคดม
เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชา
เช่น อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ
ทายลักษณะแก้วมณี
ทายลักษณะไม้พลอง
ทายลักษณะผ้า
ทายลักษณะศาตรา
ทายลักษณะดาบ
ทายลักษณะศร
ทายลักษณะธนู
ทายลักษณะอาวุธ
ทายลักษณะสตรี
ทายลักษณะบุรุษ
ทายลักษณะกุมาร
ทายลักษณะกุมารี
ทายลักษณะทาส
ทายลักษณะทาสี
ทายลักษณะช้าง
ทายลักษณะม้า
ทายลักษณะกระบือ
ทายลักษณะโคอุสภะ
ทายลักษณะโค
ทายลักษณะแพะ
ทายลักษณะแกะ
ทายลักษณะไก่
ทายลักษณะนกกระทา
ทายลักษณะเหี้ย
ทายลักษณะตุ่น
ทายลักษณะเต่า
ทายลักษณะมฤค.

[๒๑] ๓. พระสมณโคดม
เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ
ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาจักยกออก พระราชาจักไม่ยกออก
พระราชาภายในจักยกเข้าประชิด พระราชาภายนอกจักถอย
พระราชาภายนอกจักยกเข้าประชิด พระราชาภายในจักถอย
พระราชาภายในจักมีชัย พระราชาภายนอกจักปราชัย
พระราชาภายนอกจักมีชัย พระราชาภายในจักปราชัย
พระราชาพระองค์นี้จักมีชัย พระราชาพระองค์นี้จักปราชัย
เพราะเหตุนี้ๆ.

[๒๒] ๔. พระสมณโคดม
เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ พยากรณ์ว่า
จักมีจันทรคราส
จักมีสุริยคราส
จักมีนักษัตรคราส
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินถูกทาง
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินผิดทาง
ดาวนักษัตรจักเดินถูกทาง
ดาวนักษัตรจักเดินผิดทาง
จักมีอุกกาบาต
จักมีดาวหาง
จักมีแผ่นดินไหว
จักมีฟ้าร้อง
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักขึ้น
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักตก
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักมัวหมอง
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักกระจ่าง
จันทรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้
สุริยคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้
นักษัตรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดาวนักษัตรเดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดาวนักษัตรเดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้
มีอุกกาบาตจักมีผลเป็นอย่างนี้ มีดาวหางจักมีผลเป็นอย่างนี
แผ่นดินไหวจักมีผลเป็นอย่างนี้
ฟ้าร้องจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรขึ้นจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรตกจักมีผลเป็นอย่างนี
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรมัวหมองจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรกระจ่างจักมีผลเป็นอย่างนี้

[๒๓] ๕. พระสมณโคดม
เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ พยากรณ์ว่า
จักมีฝนดี จักมีฝนแล้ง
จักมีภิกษาหาได้ง่าย จักมีภิกษาหาได้ยาก
จักมีความเกษม จักมีภัย
จักเกิดโรค จักมีความสำราญหาโรคมิได้
หรือนับคะแนนคำนวณ นับประมวล
แต่งกาพย์ โลกายตศาสตร์

[๒๔] ๖. พระสมณโคดม
เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ
ให้ฤกษ์อาวาหมงคล ฤกษ์วิวาหมงคล
ดูฤกษ์เรียงหมอน ดูฤกษ์หย่าร้าง
ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์
ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย
ให้ยาผดุงครรภ์
ร่ายมนต์ให้ลิ้นกระด้าง
ร่ายมนต์ให้คางแข็ง
ร่ายมนต์ให้มือสั่น
ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสีย
เป็นหมอทรงกระจก
เป็นหมอทรงหญิงสาว
เป็นหมอทรงเจ้า
บวงสรวงพระอาทิตย์
บวงสรวงท้าวมหาพรหม
ร่ายมนต์พ่นไฟ
ทำพิธีเชิญขวัญ.

[๒๕] ๗. พระสมณโคดม
เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ
ทำพิธีบนบาน
ทำพิธีแก้บน
ร่ายมนต์ขับผี
สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน
ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย
ทำชายให้กลายเป็นกะเทย
ทำพิธีปลูกเรือน
ทำพิธีบวงสรวงพื้นที่
พ่นน้ำมนต์
รดน้ำมนต์
ทำพิธีบูชาไฟ
ปรุงยาสำรอก
ปรุงยาถ่าย
ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องบน
ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง
ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ
หุงน้ำมันหยอดหู
ปรุงยาตา
ปรุงยานัดถุ์
ปรุงยาทากัด
ปรุงยาทาสมาน
ป้ายยาตา
ทำการผ่าตัดรักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ปุถุชนกล่าวชมตถาคต
จะพึงกล่าวด้วยประการใด
ซึ่งมีประมาณน้อย ยังต่ำนัก เป็นเพียงศีลนั้นเท่านี้แล.

จบมหาศีล.

พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๙
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑ ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
หน้าที่ ๘-๑๐/๓๘๓ ข้อที่ ๑๙-๒๕

-----------------------------------------------------------------------------

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เว้นขาดจากการทำเดรัจฉานวิช
ทรงตรัสไว้กับพระราชาดังนี้ต่อไปนี้

มหาศีล

[๑๑๔] ๑.ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ
โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่าง สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้
คือ ทายอวัยวะ
ทายนิมิต
ทายอุปบาต
ทำนายฝัน
ทำนายลักษณะ
ทำนายหนูกัดผ้า
ทำพิธีบูชาไฟ
ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน
ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ
ทำพิธีซัด รำบูชาไฟ
ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ
ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ
ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ
ทำพิธีเสกเป่า บูชาไฟ
ทำพลีกรรมด้วยโลหิต
เป็นหมอดูอวัยวะ
ดูลักษณะที่บ้าน
ดูลักษณะที่นา
เป็นหมอ ปลุกเสก
เป็นหมอผี
เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน
เป็นหมองู
เป็นหมอยาพิษ
เป็นหมอแมลงป่อง
เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด
เป็นหมอทายเสียงนก
เป็นหมอทายเสียงกา
เป็นหมอทายอายุ
เป็นหมอเสกกันลูกศร
เป็นหมอทายเสียงสัตว์
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอ ประการหนึ่ง.

[๑๑๕] ๒.ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ
โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
เลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้
คือ ทายลักษณะแก้วมณี
ทายลักษณะผ้า
ทายลักษณะไม้พลอง
ทายลักษณะศาตรา
ทายลักษณะดาบ
ทายลักษณะศร
ทายลักษณะธนู
ทายลักษณะอาวุธ
ทายลักษณะสตรี
ทายลักษณะบุรุษ
ทายลักษณะกุมาร
ทายลักษณะกุมารี
ทายลักษณะทาส
ทายลักษณะทาสี
ทายลักษณะช้าง
ทายลักษณะม้า
ทายลักษณะกระบือ
ทายลักษณะโคอุสภะ
ทายลักษณะโค
ทายลักษณะแพะ
ทายลักษณะแกะ
ทายลักษณะไก่
ทายลักษณะนกกระทา
ทายลักษณะเหี้ย
ทายลักษณะตุ่น
ทายลักษณะเต่า
ทายลักษณะมฤค
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอ ประการหนึ่ง.

[๑๑๖] ๓.ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ
โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้
คือ ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า
พระราชาจักยกออก
พระราชาจักไม่ยกออก
พระราชาภายในจักยกเข้าประชิ
พระราชาภายนอกจักถอย
พระราชาภายนอกจักยกเข้าประชิด
พระราชาภายในจักถอย
พระราชาภายในจักมีชัย
พระราชาภายนอกจักปราชัย
พระราชาภายนอก จักมีชัย
พระราชาภายในจักปราชัย
พระราชาองค์นี้จักมีชัย
พระราชาองค์นี้จักปราชัย
เพราะเหตุ นี้ๆ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

[๑๑๗] ๔.ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ
โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้
คือ พยากรณ์ว่า
จักมีจันทรคราส
จักมีสุริยคราส
จักมีนักษัตรคราส
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินถูกทาง
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินผิดทาง
ดาวนักษัตรจักเดินถูกทาง
ดาวนักษัตรจักเดินผิดทาง
จักมีอุกกาบาต
จักมีดาวหาง
จักมีแผ่นดินไหว
จักมีฟ้าร้อง
ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักขึ้น
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักตก
ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และดาวนักษัตรจักมัวหมอง
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ และดาวนักษัตรจักกระจ่าง
จันทรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้
สุริยคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้
นักษัตรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เดินผิดทางจักมีผลเป็น อย่างนี้
ดาวนักษัตรเดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดาวนักษัตรเดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้
มีอุกกาบาตจักมีผลเป็นอย่างนี้
มีดาวหางจักมีผลเป็นอย่างนี
แผ่นดินไหวจักมีผลเป็นอย่างนี้
ฟ้าร้องจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรขึ้นจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรตกจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรมัวหมอง จักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรกระจ่างจักมีผลเป็นอย่างนี้
แม้ข้อนี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

[๑๑๘] ๕.ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ
โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้
คือ พยากรณ์ว่า
จักมีฝนดี
จักมีฝนแล้ง
จักมีภิกษาหาได้ง่าย
จักมีภิกษา หาได้ยาก
จักมีความเกษม
จักมีภัย
จักเกิดโรค
จักมีความสำราญหาโรคมิได้
หรือนับคะแนน
คำนวณ นับประมวล
แต่งกาพย์ โลกายศาสตร์
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

[๑๑๙] ๖.ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ
โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้
คือ ให้ฤกษ์อาวาหมงคล
ให้ฤกษ์วิวาหมงคล
ดูฤกษ์เรียงหมอน
ดูฤกษ์ หย่าร้าง
ดูฤกษ์เก็บทรัพย์
ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์
ดูโชคดี
ดูเคราะห์ร้าย
ให้ยาผดุงครรภ์
ร่ายมนต์
ให้ลิ้นกระด้าง
ร่ายมนต์ให้คางแข็ง
ร่ายมนต์ให้มือสั่น
ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสีย
เป็นหมอ ทรงกระจก
เป็นหมอทรงหญิงสาว
เป็นหมอทรงเจ้า
บวงสรวงพระอาทิตย์
บวงสรวงท้าวมหาพรหม
ร่ายมนต์พ่นไฟ
ทำพิธีเชิญขวัญ
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

[๑๒๐] ๗.ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ
โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก
ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว
ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้
คือ ทำพิธีบนบาน
ทำพิธีแก้บน
ร่ายมนต์ขับผี
สอนมนต์ป้องกัน บ้านเรือน
ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย
ทำชายให้กลายเป็นกะเทย
ทำพิธีปลูกเรือน
ทำพิธี บวงสรวงพื้นที่
พ่นน้ำมนต์
รดน้ำมนต์
ทำพิธีบูชาไฟ
ปรุงยาสำรอก
ปรุงยาถ่าย
ปรุงยา
ถ่ายโทษเบื้องบน
ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง
ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ
หุงน้ำมันหยอดหู
ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์
ปรุงยาทากัด
ปรุงยาทาสมาน
ป้ายยาตา
ทำการผ่าตัด
รักษาเด็ก
ใส่ยา ชะแผล
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

[๑๒๑] ดูกรมหาบพิตร ภิกษุสมบูรณ์ด้วยศีลอย่างนี
ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ เลย
เพราะศีลสังวร
นั้นเปรียบเหมือนกษัตริย์
ผู้ได้มุรธาภิเษก
กำจัดราชศัตรูได้แล้ว
ย่อมไม่ประสบภัย
แต่ไหนๆ เพราะราชศัตรูนั้น
ดูกรมหาบพิตร ภิกษุก็ฉันนั้น
สมบูรณ์ด้วยศีลอย่างนี้แล้ว
ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ
เพราะศีลสังวรนั้น
ภิกษุสมบูรณ์ด้วยอริยศีลขันธ์นี้
ย่อมได้เสวยสุข
อันปราศจากโทษในภายใน
ดูกรมหาบพิตร
ด้วยประการดังกล่าวมานี้แล
ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ถึง พร้อมด้วยศีล.

จบมหาศีล.

พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๙
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑ ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
หน้าที่ ๖๔/๓๘๓ ข้อที่ ๑๑๔-๑๒๑

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น