วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

พุทธวจน- แง่มุมต่างๆเพื่อความเป็นโสดาบัน



‪#‎อานิสงส์ของการบรรลุโสดาบัน‬ 
พระโสดาบันเป็นผู้ได้รับสิทธิพิเศษเหนือกว่าผู้อื่น ๓ ประการ คือ 
๑.‪#‎เป็นผู้เหลือทุกข์แค่เล็กน้อย‬ ดังที่ปรากฏในนขสิขสูตร (๑๖/๑๔๗)
ว่าสมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน
อารามของท่านอนาถบัณฑิกเศรษฐี
เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล
พระผู้มีพระภาคทรงเอาปลายพระนขา(เล็บ)ช้อนฝุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
แล้วตรัสกะพระภิกษุทั้งหลายว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน?
ฝุ่นประมาณน้อยนี้ที่เราเอาปลายเล็บช้อนขึ้นกับแผ่นดินใหญ่นี้
อย่างไหนจะมากกว่ากันหนอ”
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แผ่นดินใหญ่นี้แหละมากกว่า
ฝุ่นที่ปลายเล็บนี้มีประมาณน้อย
เมื่อเทียบกับแผ่นดินใหญ่แล้ว
ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๐๐ ไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑,๐๐๐
ไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๐๐,๐๐๐
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ฉันนั้นแหละเหมือนกัน ความทุกข์ที่หมดสิ้นไป
ของบุคคลผู้เป็นพระอริยสาวก
ผู้สมบูรณ์ด้วยทิฏฐิ ผู้ตรัสรู้แล้ว
มีมากกว่าส่วนที่เหลือมีประมาณน้อย
เมื่อเทียบเข้ากับกองทุกข์ที่หมดสิ้นไปอันมีในก่อน
ไม่เข้าถึงเสี้ยวที่ ๑๐๐ ไม่เข้าถึงเสี้ยวที่ ๑,๐๐๐
ไม่เข้าถึงเสี้ยวที่ ๑๐๐,๐๐๐
ดูกรภิกษุทั้งหลาย การตรัสรู้ธรรมให้สำเร็จประโยชน์ใหญ่อย่างนี้แล
การได้ธรรมจักษุให้สำเร็จประโยชน์ใหญ่อย่างนี้”
-
๒.‪#‎เป็นผู้ปิดประตูอบายได้แล้ว‬ (ปิหิตาปายทฺวาโร)
จะไม่ไปเกิดในสถานที่อันต่ำช้าอีกต่อไป
ดังที่พระโสดาบันทุกท่านจะมีญาณเป็นเครื่องรู้ตัวว่า
“เราเป็นผู้มีนรกกำเนิดสัตว์เดรัจฉาน เปรตวิสัย อบาย ทุคติ วินิบาต สิ้นแล้ว,
เราเป็นพระโสดาบันมีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา
เป็นผู้เที่ยงแท้ มีอันจะตรัสรู้ในภายหน้า”
-
๓.‪#‎เป็นผู้ประเสริฐกว่าใครๆ‬ ในโลก ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า
โสดาบันปัตติผล ประเสริฐกว่า กว่าการเป็นพระราชาแต่ผู้เดียวในแผ่นดิน
กว่าการไปสู่สวรรค์
และกว่าความเป็นใหญ่ในโลกทั้งปวง
พึงอนุเคราะห์กันด้วยโสตาปัตติยังคะเถิด
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ไม่เคยฟังธรรม
เมื่อจะอนุเคราะห์กัน มักจะมอบของขวัญที่มีค่ามากให้แก่กัน
เช่น บ้าน ที่ดิน ทรัพย์สินเงินทอง หรือยศถาบรรดาศักดิ์ ฯลฯ เป็นต้น
นั่นเป็นการอนุเคราะห์ที่ไม่ประเสริฐเลย
การอนุเคราะห์ที่ประเสริฐ คือการแนะนำพร่ำสอน
ให้ตั้งมั่นอยู่ในโสตาปัตติยังคะ ๔ ประการเท่านั้น
ดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า
(มิตตามัจจสูตร ๑๙/๓๖๔)
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ชนทั้งหลายที่พวกเธอจะพึงอนุเคราะห์ก็ดี
ชนทั้งหลายที่พอจะรับฟังคำสั่งสอนได้ก็ดี
ไม่ว่าจะเป็นมิตร เป็นผู้ร่วมงาน เป็นญาติ
หรือเป็นสายโลหิต, พวกเธอชักชวนแนะนำพร่ำสอน
ให้เขาเหล่านั้น ตั้งอยู่ในองค์คุณแห่งพระโสดาบัน ๔ ประการเถิด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย มหาภูตรูป ๔
คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ
พึงมีความแปรเป็นอย่างอื่นไปได้
ส่วนอริยสาวกที่ประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว
ไม่พึงมีความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นได้เลย
การที่พระอริยสาวกผู้ประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว
จักบังเกิดในนรก กำเนิดสัตว์เดรัจฉาน หรือเปรตวิสัย ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้”
---
‪#‎พระโสดาบันต้องละอะไรได้บ้าง‬?
พระโสดาบันต้องเป็นผู้ละสังโยชน์ (เครื่องผูก) ๓ ประการ
ได้อย่างเด็ด-ขาด คือ
๑.‪#‎ละสักกายทิฏฐิ‬ คือ ละความเห็นเป็นเหตุให้เห็นแก่ตัวได้อย่างเด็ดขาด
๒.‪#‎ละวิจิกิจฉา‬ คือ ละความลังเลสงสัยในกุศลธรรมได้อย่างเด็ดขาด
๓.‪#‎ละสีลัพพตปรามาส‬ คือ ละความเชื่อถือศักดิ์สิทธิ์
ด้วยเข้าใจว่ามีได้ด้วยอำนาจศีลและพรตได้อย่างเด็ดขาด
-----
‪#‎พระโสดาบัน‬ ๓ ประเภท
พระโสดาบันมี ๓ จำพวก คือ
๑.เอกพีชี คือ พระโสดาบันผู้ที่จะเกิดอีกเพียงครั้งเดียวก็จะบรรลุนิพพาน
๒.โกลังโกละ คือ พระโสดาบันผู้ที่จะเกิดอีก ๒-๖ ชาติก็จะบรรลุนิพพาน
๓.สัตตักขัตตุปรมะ คือ พระโสดาบันผู้ที่จะเกิดอีกอย่างมากไม่เกิน ๗ ชาติ
-----
‪#‎ปฏิบัติอย่างไรจึงจะเป็นพระโสดาบัน‬?
ผู้ที่ใครจะบรรลุเป็นพระโสดาบัน จะต้องปฏิบัติตามหลัก
๔ ประการนี้ ซึ่งเรียกว่า “โสตาปัตติยังคะ” แปลว่า องค์คุณของการบรรลุโสดาบัน ๔ ประการ หากไม่ประพฤติตามหลักธรรม ๔ ข้อนี้ จะไม่บรรลุธรรมได้เลย ธรรมทั้ง ๔ ข้อนี้ก็คือ
๑. สัปปุริสสังเสวะ คือ การคบสัตบุรุษ
๒. สัทธัมมัสสวนะ คือ การฟังพระสัทธรรม
๓. โยนิโสมนสิการ คือ การกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย
๔. ธัมมานุธัมมปฏิบัตติ คือ การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
---
‪#‎โสดาปัตติผลบุคคล‬ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโสดาบัน
คือผู้ที่ผ่านโสดาปัตติมรรคมาแล้ว
‪#‎คุณสมบัติที่สำคัญของโสดาบันก็คือ‬
‪#‎พ้นจากอบายภูมิตลอดไป‬ คือจะไม่ไปเกิดในอบายภูมิอีกเลย เพราะจิตใจมีความประณีตเกินกว่าที่จะไปเกิดในภูมิเหล่านั้นได้ (ใครจะไปเกิดในภูมิใดนั้น ขึ้นกับสภาพจิตตอนใกล้ตายที่เรียกว่ามรณาสันนวิถี ถ้าขณะนั้นจิตมีสภาพเป็นอย่างไร ก็จะส่งผลให้ไปเกิดใหม่ในภูมิที่มีสภาพใกล้เคียงกับสภาพจิตนั้นมากที่สุด)
‪#‎อีกไม่เกิน‬ 7 ชาติจะบรรลุเป็นพระอรหันต์
‪#‎มีศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างมั่นคง‬ ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน จะไม่คิดเปลี่ยนศาสนาอีกเลย
‪#‎มีศีล‬ 5 บริบูรณ์ (ไม่ใช่แค่บริสุทธิ์) คือความบริสุทธิ์ของศีลนั้นเกิดจากความบริสุทธ์/ความประณีต ของจิตใจจริง ๆ ไม่ใช่ใจอยากทำผิดศีลแต่สามารถข่มใจไว้ได้ คือใจสะอาดจนเกินกว่าจะทำผิดศีลห้าได้
---
link ;; พระสูตรอานิสงส์ฟังพุทธวจน
https://www.facebook.com/fata.chalee/posts/1723444627887073
-----
link ;; ‪#‎การรู้อริยสัจควรแลกเอา‬ ‪#‎แม้ด้วยการถูกแทงด้วยหอกวันละ‬ ๓๐๐ ครั้ง ๑๐๐ ปี
https://www.facebook.com/fata.chalee/posts/1723441771220692
----
link ;; ดาวน์โหลดคู่มือโสดาบัน 50 กว่านัยยะ
http://larndham.org/index.php…
----
link ;; ดาวน์โหลดเสียงอ่านหนังสือคู่มือ โสดาบัน 50 กว่านัยยะ
http://watnapp.com/audio/view_category/44
---

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น