วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
พุทธวจนเพื่อความสิ้นทุกข์ดับไม่เหลือ
#ศรแห่งความโศก
#ฐานะ๕ประการ
https://www.youtube.com/watch?v=U25frAuYPW8
๘. ฐานสูตร
[๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฐานะ ๕ ประการนี้
อันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร
พรหม หรือใครๆ ในโลก ไม่พึงได้ ๕ ประการเป็นไฉน
คือฐานะว่า
• ขอสิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดา [ของเรา] อย่าแก่ ๑
• ขอสิ่งที่มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา [ของเรา] อย่าเจ็บไข้ ๑
• ขอสิ่งที่มีความตายเป็นธรรมดา[ของเรา] อย่าตาย ๑
• ขอสิ่งที่มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา [ของเรา] อย่าสิ้นไป ๑
• ขอสิ่งที่มีความฉิบหายเป็นธรรมดา [ของเรา] อย่าฉิบหาย ๑
-
อันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม
หรือใครๆ ในโลกไม่พึงได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดา
ของปุถุชนผู้ไม่ได้สดับย่อมแก่ไป
เมื่อสิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดาแก่ไปแล้ว
เขาย่อมไม่เห็นดังนี้ว่า
● ไม่ใช่สิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดาของเราผู้เดียวเท่านั้น แก่ไป
โดยที่แท้
สิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดาของสัตว์ทั้งปวงที่มีการมา การไป
การจุติ การอุปบัติ ย่อมแก่ไปทั้งสิ้น
ส่วนเราเอง
ก็เมื่อสิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดาแก่ไปแล้ว
พึงเศร้าโศก ลำบาก ร่ำไรทุบอก คร่ำครวญ
หลงงมงาย
-
แม้อาหารเราก็ไม่อยากรับประทาน
แม้กายก็พึงเศร้าหมอง ซูบผอม
แม้การงานก็พึงหยุดชะงัก
แม้พวกอมิตรก็พึงดีใจ
แม้พวกมิตรพึงเสียใจ
-
ดังนี้ เมื่อสิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดาแก่ไปแล้ว
เขาย่อมเศร้าโศก ลำบาก ร่ำไร ทุบอก คร่ำครวญ
หลงงมงาย นี้เรียกว่าปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ
ถูกลูกศร คือ ความโศกที่มีพิษแทงเข้าแล้ว
ย่อมทำตนให้เดือดร้อน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง
-
● สิ่งที่มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ของปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ย่อมเจ็บไข้ ...
● สิ่งที่มีความตายเป็นธรรมดา ของปุถุชนผู้ไม่ได้สดับย่อมตายไป ...
● สิ่งที่มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา ของปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ย่อมสิ้นไป ...
● สิ่งที่มีความฉิบหายเป็นธรรมดาของปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ย่อมฉิบหายไป
-
เมื่อสิ่งที่มีความฉิบหายเป็นธรรมดา ฉิบหายไปแล้ว
เขาย่อมไม่พิจารณาเห็นดังนี้ว่า
ไม่ใช่สิ่งที่มีความฉิบหายเป็นธรรมดาของเราผู้เดียวเท่านั้น
ฉิบหายไป โดยที่แท้
สิ่งที่มีความฉิบหายไปเป็นธรรมดาของสัตว์ทั้งปวง
ที่มีการมาการไปการจุติ การอุปบัติ ย่อมฉิบหายไปทั้งสิ้น
ส่วนเราเอง
ก็เมื่อสิ่งที่มีความฉิบหายไปเป็นธรรมดาฉิบหายไปแล้ว
พึงเศร้าโศก ลำบาก ร่ำไร ทุบอก
คร่ำครวญหลงงมงาย
-
แม้อาหารเราก็ไม่อยากรับประทาน
แม้กายก็พึงเศร้าหมอง ซูบผอม
แม้การงานก็พึงหยุดชะงัก
แม้พวกอมิตรก็พึงดีใจ
แม้พวกมิตรพึงเสียใจ
-
ดังนี้เมื่อสิ่งที่มีความฉิบหายเป็นธรรมดาฉิบหายไปแล้ว
เขาย่อมเศร้าโศก ลำบากร่ำไร ทุบอกคร่ำครวญ
หลงงมงาย นี้เรียกว่าปุถุชนผู้ไม่ได้สดับถูกลูกศร
คือ ความโศกที่มีพิษแทงเข้าแล้ว ย่อมทำตนให้เดือดร้อน
• ดูกรภิกษุทั้งหลาย. ส่วนว่าสิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดา
ของอริยสาวกผู้ได้สดับ ย่อมแก่ไป
เมื่อสิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดาแก่ไปแล้ว
อริยสาวกนั้นย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า
ไม่ใช่สิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดาของเราผู้เดียวเท่านั้นแก่ไป
โดยที่แท้ สิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดา
ของสัตว์ทั้งปวงที่มีการมา
การไปการจุติ การอุปบัติ ย่อมแก่ไปทั้งสิ้น
ส่วนเราเอง
ก็เมื่อสิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดา แก่ไปแล้ว
พึงเศร้าโศกลำบาก ร่ำไร ทุบอก
คร่ำครวญ หลงงมงาย
-
แม้อาหารเราก็ไม่อยากรับประทาน
แม้กายก็พึงเศร้าหมอง ซูบผอม
แม้การงานก็พึงหยุดชะงัก
แม้พวกอมิตรก็พึงดีใจ
แม้พวกมิตรก็พึงเสียใจ
-
ดังนี้ เมื่อสิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดา
แก่ไปแล้วอริยสาวกนั้นย่อมไม่เศร้าโศก
ไม่ลำบาก ไม่ร่ำไร ไม่ทุบอก คร่ำครวญ
ไม่หลงงมงาย นี้เรียกว่าอริยสาวกผู้ได้สดับ ถอนลูกศร
คือ ความโศกที่มีพิษเป็นเครื่องเสียบแทง
ปุถุชน ผู้ไม่ได้สดับ ทำตนให้เดือดร้อน
อริยสาวกผู้ไม่มีความโศก ปราศจากลูกศร
ย่อมดับทุกข์ร้อนได้ด้วยตนเอง
-
• ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง
สิ่งที่มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดาของอริยสาวกผู้ได้สดับ ย่อมเจ็บไข้ ...
• สิ่งที่มีความตายเป็นธรรมดา ของอริยสาวกผู้ได้สดับ ย่อมตายไป...
• สิ่งที่มีความสิ้นไปเป็นธรรมดาของอริยสาวกผู้ได้สดับ ย่อมสิ้นไป ...
• สิ่งที่มีความฉิบหายเป็นธรรมดาของอริยสาวกผู้ได้สดับ ย่อมฉิบหายไป
เมื่อสิ่งที่มีความฉิบหายเป็นธรรมดาฉิบหายไปแล้ว
อริยสาวกนั้นย่อมพิจารณาเห็นว่า
ไม่ใช่สิ่งที่มีความฉิบหายไปเป็นธรรมดาของเราผู้เดียวเท่านั้นฉิบหายไป โดยที่แท้สิ่งที่มีความฉิบหายไปเป็นธรรมดาของสัตว์ทั้งปวง
ที่มีการมา การไปการจุติการอุปบัติ
ย่อมฉิบหายไปทั้งสิ้น ส่วนเราเอง
ก็เมื่อสิ่งที่มีความฉิบหายไปเป็นธรรมดาฉิบหายไปแล้ว
พึงเศร้าโศก ลำบาก ร่ำไร ทุบอก
คร่ำครวญ หลงงมงาย
-
แม้อาหารเราก็ไม่อยากรับประทาน
แม้กายก็พึงเศร้าหมอง ซูบผอม
แม้การงานก็พึงหยุดชะงัก
แม้พวกอมิตรก็พึงดีใจ
แม้พวกมิตรก็พึงเสียใจ
ดังนี้
-
เมื่อสิ่งที่มีความฉิบหายเป็นธรรมดาฉิบหายไปแล้ว
อริยสาวกนั้นย่อมไม่เศร้าโศกไม่ลำบาก ไม่ร่ำไร
ไม่ทุบอก คร่ำครวญ ไม่หลงงมงาย
นี้เรียกว่าอริยสาวกผู้ได้สดับ ถอนลูกศร
คือ ความโศกที่มีพิษ อันเป็นเครื่องเสียบแทง
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ทำให้เดือดร้อน
อริยสาวกผู้ไม่มีความโศกปราศจากลูกศร
ย่อมดับความทุกข์ร้อนได้ด้วยตนเอง
-
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฐานะ ๕ ประการนี้แล
-
อันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม
หรือใครๆในโลกไม่พึงได้ ฯ
ประโยชน์แม้เล็กน้อยในโลกนี้
อันใครๆ ย่อมไม่ได้เพราะการเศร้าโศก
เพราะการคร่ำครวญ พวกอมิตรทราบว่าเขาเศร้าโศก
เป็นทุกข์ ย่อมดีใจ ก็คราวใด บัณฑิตผู้พิจารณารู้เนื้อความ
ไม่หวั่นไหวในอันตรายทั้งหมด คราวนั้น
พวกอมิตรเห็นหน้าอันไม่ผิดปรกติของบัณฑิตนั้น
ยิ้มแย้มตามเคยย่อมเป็นทุกข์
บัณฑิตพึงได้ประโยชน์ในที่ใดๆ ด้วยประการใดๆ
-
เพราะการสรรเสริญ
เพราะความรู้
เพราะกล่าวคำสุภาษิต
เพราะการบำเพ็ญทาน
หรือเพราะประเพณีของตนก็พึงบากบั่นในที่นั้นๆ
ด้วยประการนั้นๆ
ถ้าพึงทราบว่าความต้องการอย่างนี้อันเรา
หรือผู้อื่นไม่พึงได้ไซร้
ก็ไม่ควรเศร้าโศก
ควรตั้งใจทำงานโดยเด็ดขาดว่า บัดนี้เราทำอะไรอยู่
ดังนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๘
พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๒
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
หน้าที่ ๔๘/๔๐๗ ข้อที่ ๔๘
••••••••••••••••••
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น