วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

พุทธวจน faq การดำเนินชีวิตที่ไม่ประมาท



‪#‎ผู้ไม่สำรวมอินทรีย์คือผู้ประมาท‬
‪#‎ผู้สำรวมอินทรีย์คือผู้ไม่ประมาท‬
https://www.youtube.com/watch?v=fC9fyqlQkC4
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุเป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความประมาท เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อภิกษุไม่สำรวมระวัง ซึ่งอินทรีย์คือตาอยู่
จิตย่อมเกลือกกลั้วในรูปทั้งหลายอันเป็นวิสัยแห่งการรู้สึกด้วยตา;
เมื่อภิกษุนั้นมีจิตเกลือกกลั้วแล้ว ปราโมทย์ ย่อมไม่มี;
เมื่อ ปราโมทย์ ไม่มี, ปีติ ก็ไม่มี;
เมื่อ ปีติ ไม่มี, ปัสสัทธิ ก็ไม่มี;
เมื่อ ปัสสัทธิ ไม่มี, ภิกษุนั้นย่อมอยู่เป็นทุกข์;
เมื่อ มีทุกข์, จิตย่อมไม่ตั้งมั่น;
เมื่อ จิตไม่ตั้งมั่น, ธรรมทั้งหลายย่อมไม่ปรากฏ;
เพราะธรรมทั้งหลายไม่ปรากฏ
ภิกษุนั้น ย่อมถึงซึ่งการถูกนับว่าเป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความประมาท โดยแท้.
(ในกรณีแห่งอินทรีย์ คือ หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ก็มีนัยยะอย่างเดียวกัน)
ภิกษุทั้งหลาย ! อย่างนี้แล ภิกษุเป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความประมาท.
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุเป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อภิกษุสำรวมระวัง ซึ่งอินทรีย์คือตาอยู่
จิตย่อมไม่เกลือกกลั้ว ในรูปทั้งหลายอันเป็นวิสัยแห่งการรู้สึกด้วยตา;
เมื่อภิกษุนั้น ไม่มีจิตเกลือกกลั้วแล้ว ปราโมทย์ ย่อมเกิด;
เมื่อ ปราโมทย์ แล้ว ปีติ ย่อมเกิด;
เมื่อใจมี ปีติ ปัสสัทธิ ย่อมมี;
เมื่อมี ปัสสัทธิ ภิกษุนั้น ย่อมอยู่เป็นสุข;
เมื่อ มีสุข จิตย่อมตั้งมั่น;
เมื่อ จิตตั้งมั่น แล้ว ธรรมทั้งหลายย่อมปรากฏ;
เพราะธรรมทั้งหลายย่อมปรากฏ
ภิกษุนั้นย่อมถึงซึ่งการถูกนับว่าเป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท โดยแท้.
(ในกรณีแห่งอินทรีย์ คือ หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ก็มีนัยยะอย่างเดียวกัน)
ภิกษุทั้งหลาย ! อย่างนี้แล ภิกษุเป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท.
สฬา. สํ. ๑๘/๙๗/๑๔๓-๔.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น