#คลิปนี้พระอาจารย์เชื่อมโยงพระสูตรตอบคำถามได้กระจ่างมากๆ
เหตุปัจจัยของการทะเลาะวิวาท.((คือ ความอิจฉา (อิสสา) และความตระหนี่ (มัจฉริยะ) )) เกิดจาก.(( สิ่งที่เป็นที่รัก และไม่เป็นที่รัก))...ถ้าเราไม่ละ..ธรรมอันเป็นเหตุ..แล้วธรรมที่เกิดมาแต่เหตุ..คือความสามัคคี..จะมีขึ้นได้มั๊ย...ไม่ได้..ต้องทำให้สิ่งนี้มี...สิ่งนี้จึงมี..ต้องให้ศีลธรรมกับคน..ต้องพัฒนาคน..ให้เป็น..อริยะ..มั่นคงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างไม่หวั่นไหว..มีศีลอันเป็นที่รักของอริยเจ้า(ศีล๕)
********************************
ดูก่อนอานนท์ ! ก็ด้วยอาการดังนี้แล
เพราะอาศัยเวทนา จึงมี ตัณหา;
เพราะอาศัยตัณหา จึงมี การแสวงหา (ปริเยสนา);
เพราะอาศัยการแสวงหา จึงมี การได้ (ลาโภ);
เพราะอาศัยการได้ จึงมี ความปลงใจรัก (วินิจฺฉโย);
เพราะอาศัยความปลงใจรัก จึงมี ความกำหนัดด้วยความพอใจ (ฉนฺทราโค) ;
เพราะอาศัยความกำหนัดด้วยความพอใจ จึงมีความสยบมัวเมา (อชฺโฌสานํ) ;
เพราะอาศัยความสยบมัวเมา จึงมี ความจับอกจับใจ (ปริคฺคโห);
เพราะอาศัยความจับอกจับใจ จึงมี ความตระหนี่ (มจฺฉริยํ);
เพราะอาศัยความตระหนี่ จึงมี การหวงกั้น (อารกฺโข);
เพราะอาศัยการหวงกั้น จึงมี เรื่องราวอันเกิดจากการหวงกั้น(อารกฺขาธิกรณํ);
กล่าวคือ การใช้อาวุธไม่มีคม การใช้อาวุธมีคม
การทะเลาะ การแก่งแย่ง การวิวาท
การกล่าวคำหยาบว่า “ มึง ! มึง ! ”
การพูดคำส่อเสียด และ การพูดเท็จทั้งหลาย
: ธรรมอันเป็นบาปอกุศลเป็นอเนก ย่อมเกิดขึ้น พร้อมด้วยอาการอย่างนี้.
มหา.ที. ๑๐/๖๙/๕๙.
----
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น