วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ผู้มีความหลีกเร้นเป็นที่มายินดี::พุทธวจนฉบับ ๑๖ อนาคามี อ่านโดย ภิกขุเอเ...





🙏🙏🙏ผู้มีความหลีกเร้นเป็นที่มายินดี::พุทธวจนฉบับ ๑๖ อนาคามี อ่านโดย ภิกขุเอเอ อธิจิตฺโต 🙏🙏🙏

ดาวน์โหลดเสียงอ่านเต็มๆ::พุทธวจนฉบับ ๑๖ อนาคามี อ่านโดย ภิกขุเอเอ อธิจิตฺโต http://watnapp.com/audio/view_category/84/2536

คลิปยูทูป

https://www.youtube.com/watch?v=1TSjf0J8-LU

คลิปเพจ

https://www.facebook.com/groups/812413695492875/permalink/1550327625034808/

💡💡💡ติดตามการเผยแผ่พุทธวจนได้ที่::

http://watnapp.com/ (เว็บไซต์วัดนาป่าพง)

http://faq.watnapp.com/ (คำถามเกี่ยวกับพุทธวจน)

http://media.watnapahpong.org/ (สื่อต่าง ๆ ของพุทธวจน)

http://www.buddhakos.org/ (มูลนิธิพุทธโฆษณ์)

๘. สัลลานสูตร

[๒๒๓] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว

พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว

เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า

---

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีความหลีกเร้นเป็นที่มายินดี

ยินดีแล้วในความหลีกเร้น

ประกอบจิตของตนไว้ในสมถะในภายในเนืองๆ

มีฌานไม่เสื่อม ประกอบด้วยวิปัสสนา

พอกพูนสุญญาคารอยู่เถิด

--

ดูกรภิกษุทั้งหลายเมื่อเธอทั้งหลาย

มีความหลีกเร้นเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความหลีกเร้น

ประกอบจิตของตนไว้ในสมถะในภายในเนืองๆ

มีฌานไม่เสื่อม ประกอบด้วยวิปัสสนา

พอกพูนสุญญาคารอยู่

--

พึงหวังผลได้ ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ

อรหัตผลในปัจจุบัน

หรือเมื่อยังมีความยึดมั่นเหลืออยู่

ก็จะเป็นอนาคามี ฯ

---

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว

ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสคาถาประพันธ์

ดังนี้ว่า

ชนเหล่าใดมีจิตสงบแล้ว

มีปัญญาเป็นเครื่องรักษาตน

มีสติ มีฌาน ไม่มีความยินดีในกามทั้งหลาย

ย่อมเห็นแจ้งธรรมโดยชอบ

เป็นผู้ยินดีแล้วในความไม่ประมาท

มีปรกติเห็นภัยในความประมาท ชนเหล่านั้น

เป็นผู้ไม่อาจเสื่อม

ดำรงอยู่ใกล้นิพพานเทียว

/

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว

เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล ฯ

จบสูตรที่ ๑

----

พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๕

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต

หน้าที่ ๑๙๓ ข้อที่ ๒๒๓

//

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น