วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ฆ่าโดยไม่เจตนา เป็นกรรมหรือไม่ (พระอาจารย์เมตตาลงรายละเอียด กายไม่ไหวโค...





คลงเพราะจิตไม่ไหวโคลง)😳
ตัดจากคลิปสนทนาธรรมเช้าวันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน 2560🙏
กราบขอบพระคุณคลิปยูทูป จาก คุณ ป๊อก บางกรวย
https://www.youtube.com/watch?v=4EZjFQHdPDw
ถ่ายทอดคำพระศาสดาโดย : พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล
ณ ศาลาไม้ วัดนาป่าพง ลำลูกกาคลอง 10 ปทุมธานี🙏
💡💡💡ติดตามการเผยแผ่พุทธวจนได้ที่::
http://watnapp.com (เว็บไซต์วัดนาป่าพง)
http://faq.watnapp.com (คำถามเกี่ยวกับพุทธวจน)
http://media.watnapahpong.org (สื่อต่าง ๆ ของพุทธวจน)
http://www.buddhakos.org (มูลนิธิพุทธโฆษณ์)
https://www.youtube.com/channel/UCNFAVAcWUuCYhYtO1RM9sLA(ช่อง ยูทูป ของ คุณป๊อก บางกรวย )
คลิปเพจ + พระสูตร
https://www.facebook.com/groups/812413695492875/permalink/1578810435519860/
คลิปยูทูป
https://youtu.be/ZM8SL7TzqkY
#ถ้าจิตไม่ไหวโคลง #กายก็ไม่ไหวโคลง...
เจริญอานาปานสติ :
ความหวั่นไหวโยกโคลงแห่งกายและจิต
ย่อมมีขึ้นไม่ได้
ครั้งหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า
ได้ทอดพระเนตร เห็นพระมหากัปปินะ
ผู้มีกายไม่โยกโคลง
แล้วได้ตรัสแก่
ภิกษุทั้งหลายว่า :-
ภิกษุทั้งหลาย ! พวกเธอเห็นความหวั่นไหว หรือ
ความโยกโคลงแห่งกายของมหากัปปินะบ้างหรือไม่ ?
*
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
เวลาใดที่ข้าพระองค์ทั้งหลาย
เห็นท่านผู้มีอายุนั่งในท่ามกลางสงฆ์ก็ดี
นั่งในที่ลับคนเดียวก็ดี
ในเวลานั้นๆ
ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เห็นความหวั่นไหว
หรือความโยกโคลงแห่งกาย
ของท่านผู้มีอายุรูปนั้นเลย พระเจ้าข้า !”
*
ภิกษุทั้งหลาย !
ความหวั่นไหวโยกโคลงแห่งกายก็ตาม
ความหวั่นไหวโยกโคลงแห่งจิตก็ตาม
มีขึ้นไม่ได้
เพราะการเจริญทำให้มากซึ่งสมาธิใด;
*
ภิกษุมหากัปปินะนั้น
เป็นผู้ได้ตามปรารถนา
ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบาก ซึ่งสมาธินั้น.
*
ภิกษุทั้งหลาย !
ความหวั่นไหวโยกโคลงแห่งกายก็ตาม
ความหวั่นไหวโยกโคลงแห่งจิตก็ตาม
มีขึ้นไม่ได้
เพราะการเจริญทำให้มากซึ่งสมาธิเหล่าไหนเล่า ?
*
ภิกษุทั้งหลาย !
ความหวั่นไหวโยกโคลงแห่งกายก็ตาม
ความหวั่นไหวโยกโคลงแห่งจิตก็ตาม
ย่อมมีไม่ได้
เพราะการเจริญทำให้มากซึ่งอานาปานสติสมาธิ.
*
ภิกษุทั้งหลาย !
เมื่ออานาปานสติสมาธิ
อันบุคคลเจริญ ทำให้มากแล้ว อย่างไรเล่า
ความหวั่นไหวโยกโคลงแห่งกายก็ตาม
ความหวั่นไหวโยกโคลงแห่งจิตก็ตาม
จึงไม่มี ?
ภิกษุทั้งหลาย !
ในกรณีนี้ ภิกษุไปแล้วสู่ป่า หรือโคนไม้ หรือเรือนว่างก็ตาม
นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ ตั้งกายตรง
ดำรงสติเฉพาะหน้า
เธอนั้น มีสติหายใจเข้า มีสติหายใจออก :
เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้ายาว,
เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกยาว;
เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้าสั้น,
เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกสั้น;
*
ภิกษุทั้งหลาย !
เมื่ออานาปานสติสมาธิ
อันบุคคลเจริญ ทำให้มากแล้ว อย่างนี้แล
ความหวั่นไหวโยกโคลงแห่งกายก็ตาม
ความหวั่นไหวโยกโคลงแห่งจิตก็ตาม
ย่อมมีไม่ได้ ดังนี้.
มหาวาร. สํ. ๑๙/๓๙๙-๔๐๐/๑๓๒๒-๑๓๒๖.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น