วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558
พุทธวจน faq สมถะ กับ วิปัสสนา ต่างกันอย่างไร
สังวร สำรวมอินทรีย์
ทำให้จิตมีอารมณ์อันเดียว ทำให้เกิดสมาธิ
พระศาสดาให้ทำควบคู่กับการมีปัญญาเห็นเกิิดดับ
https://www.youtube.com/watch?v=D7xyldx7EBw
---
#เจริญอัฏฐังคิกมรรค
#สมถะและวิปัสสนาคู่เคียงกันไป
[๘๒๙] เมื่อบุคคลนั้นเจริญอัฏฐังคิกมรรคอันประเสริฐ
นี้อยู่อย่างนี้ ชื่อว่า
#มีสติปัฏฐาน ๔
#สัมมัปปธาน ๔
#อิทธิบาท ๔
#อินทรีย์ ๕
#พละ ๕
#โพชฌงค์ ๗
ถึงความเจริญบริบูรณ์
บุคคลนั้นย่อมมีธรรมทั้งสองดังนี้
#คือสมถะและวิปัสสนาคู่เคียงกันเป็นไป
เขาชื่อว่า
#กำหนดรู้ธรรมที่ควรรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง
#ละธรรมที่ควรละด้วยปัญญาอันยิ่ง
#เจริญธรรมที่ควรเจริญด้วยปัญญา อันยิ่ง
#ทำให้แจ้งธรรมที่ควรทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมที่
ควรกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งเป็นไฉน
มีข้อที่เรากล่าวไว้ว่า อุปาทานขันธ์ ๕ ได้แก่อุปาทานขันธ์
คือรูป คือเวทนา คือสัญญา คือสังขาร คือวิญญาณเหล่านี้
ชื่อว่าธรรมที่ควรกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมที่ควรละด้วยปัญญาอันยิ่งเป็นไฉน
คืออวิชชา และภวตัณหาเหล่านี้ชื่อว่าธรรมที่ควรละด้วยปัญญาอันยิ่ง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมที่ควรเจริญด้วยปัญญาอันยิ่งเป็นไฉน
คือสมถะและวิปัสสนาเหล่านี้ชื่อว่าธรรมที่ควรเจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมที่ควรทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเป็นไฉน
คือวิชชาและวิมุตติเหล่านี้ชื่อว่าธรรมที่ควรทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง ฯ
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
---------------------
#ข้าศึกของมัชฌิมาปฏิปทา (อัฏฐังคิกมรรค)
ภิกษุ ท.! มีสิ่งที่แล่นดิ่งไปสุดโต่ง (อนฺตา) อยู่ ๒ อย่าง
ที่ บรรพชิตไม่ควรข้องแวะด้วย.
สิ่งที่แล่นดิ่งไปสุดโต่งนั้นคืออะไร ? คือ
การประกอบตนพัวพันอยู่ด้วย
#ความใคร่ในกามทั้งหลาย (กามสุขัลลิกานุโยค)
อันเป็นการกระทำที่ยังต่ำ
เป็นของชาวบ้าน
เป็นของชั้นบุถุชน
ไม่ใช่ของพระอริยเจ้า
ไม่ประกอบด้วยประโยชน์,
และ
#การประกอบความเพียรในการทรมานตนให้ลำบาก(อัตตกิลมถานุโยค)
อันนำมาซึ่งความทุกข์ไม่ใช่ของพระอริยเจ้า
ไม่ประกอบด้วยประโยชน์, สองอย่างนี้แล.
ภิกษุ ท.! ข้อปฏิบัติเป็นทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา)
ที่ไม่ดิ่งไปหาสิ่งสุดโต่งสองอย่างนั้น
เป็นข้อปฏิบัติที่ตถาคตได้ตรัสรู้เฉพาะแล้ว
เป็นข้อปฏิบัติที่ตถาคตได้ตรัสรู้เฉพาะแล้ว
เป็นข้อปฏิบัติทำให้เกิดจักษุ
เป็นข้อปฏิบัติทำให้เกิดญาณ
เป็นไปเพื่อความสงบ
เพื่อความรู้ความรู้อันยิ่ง
เพื่อความตรัสรู้พร้อม
เพื่อนิพพาน.
ภิกษุ ท.! ข้อปฏิบัติที่เป็นทางสายกลาง
ที่ไม่ดิ่งไปหาที่สุดโต่ง สองอย่างนั้น
เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ข้อปฏิบัติอันเป็นทางสายกลางนั้น คือ
ข้อปฏิบัติอันเป็นหนทางอันประเสริฐ
ประกอบอยู่ด้วยองค์แปดประการ นี่เอง.
แปดประการคืออะไรเล่า ? คือ
สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นที่ถูกต้อง)
สัมมาสังกัปปะ (ความดำริที่ถูกต้อง)
สัมมาวาจา(การพูดจาที่ถูกต้อง)
สัมมากัมมันตะ (การทำงานที่ถูกต้อง)
สัมมาอาชีวะ (การดำรงชีพที่ถูกต้อง)
สัมมาวายามะ (ความพากเพียรที่ถูกต้อง)
สัมมาสติ (ความระลึกที่ถูกต้อง)
สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นคงที่ถูกต้อง).
ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
-มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๒๘/๑๖๖๔.
อริยสัจจากพระโอษฐ์ภาคปลาย ๙
---------------------------------
ศึกษา พุทธวจน(คำของพระพุทธเจ้า)ได้ที่นี่
http://www.buddhakos.org/
http://watnapp.com/
http://media.watnapahpong.org/
http://www.buddhaoat.org/
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น