วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2559

พุทธวจน faq หลักเกณฑ์การตรวจสอบความเป็นโสดาบัน



‪#‎คูณสมบัติของพระโสดาบัน‬
ดูก่อนคหบดี! อริยสาวก เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยองค์แห่งโสดาบัน ๔ ประการ เหล่าไหนเล่า?
(๑)ดูก่อนคหบดี! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยความเลื่อมใสอันหยั่งลงมั่น ไม่หวั่นไหว ในพระพุทธเจ้า (พุทธอเวจจัปปสาท) ว่า "เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง เป็นผู้สามารถฝึกคนที่ควรฝึกอย่างไม่มีใครยิ่งกว่า เป็นครูของเทวดาและ มนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยธรรม เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์"ดังนี้.
--
(๒)ดูก่อนคหบดี! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยความเลื่อมใสอันหยั่งลงมั่น ไม่หวั่นไหว ในพระธรรม (ธัมมอเวจจัปปสาท) ว่า "พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ ไม่จำกัดกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน" ดังนี้.
---
(๓)ดูก่อนคหบดี! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยความเลื่อมใสอันหยั่งลงมั่น ไม่หวั่นไหว ในพระสงฆ์ (สังฆอเวจจัปปสาท) ว่า "สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์ เป็นผู้ปฏิบัติสมควรแล้ว ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่งบุรุษสี่คู่ นับเรียงตัวได้แปดบุรุษ นั่นแหละคือสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ เป็นสงฆ์ควรรับทักษิณาทาน เป็นสงฆ์ที่บุคคลทั่วไปจะพึงทำอัญชลี เป็นสงฆ์ที่เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า" ดังนี้.
(๔)ดูก่อนคหบดี! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยศีลทั้งหลายในลักษณะเป็นที่พอใจของพระอริยเจ้า (อริยกันตศีล): เป็นศีลที่ไม่ขาดไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นศีลที่เป็นไทจากตัณหา วิญญูชนสรรเสริญ ไม่ถูกตัณหาและทิฏฐิลูบคลำ เป็นศีลที่เป็นไปพร้อมเพื่อสมาธิ ดังนี้.
ดูก่อนคหบดี! อริยสาวก เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยองค์แห่งโสดาบัน ๔ ประการ เหล่านี้แล.
... ... ...
ดูก่อนคหบดี! ภัยเวร ๕ ประการ อันอริยสาวกทำให้สงบระงับได้แล้ว ในกาลใด; ในกาลนั้น อริยสาวกนั้น ย่อมเป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยองค์แห่งโสดาบัน ๔ ประการ ด้วย, และอริยญายธรรม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นเห็นแล้วด้วยดี แทงตลอดแล้วด้วยดี ด้วยปัญญาด้วย; อริยสาวกนั้น เมื่อหวังจะพยากรณ์ ก็พึงพยากรณ์ตนเองด้วยตนเองได้ ว่า "เราเป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มี กำเนิดเดรัจฉานสิ้นแล้ว มีเปรตวิสัยสิ้นแล้ว มีอบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว,เราเป็นผู้ถึงแล้วซึ่งกระแส(แห่งนิพพาน)มีธรรมอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อนิพพาน มีการตรัสรู้ธรรมเป็นเบื้องหน้า" ดังนี้.
ดูก่อนคหบดี! ภยเวร ๕ ประการ เหล่าไหนเล่า อันอริยสาวกทำให้สงบรำงับได้แล้ว?
(๑)ดูก่อนคหบดี! บุคคลผู้ฆ่าสัตว์อยู่เป็นปรกติ ย่อมประสบภัยเวรใด ในทิฏฐธรรมบ้าง, ย่อมประสบภัยเวรใด ในสัมปรายิกบ้าง, ย่อมเสวยทุกขโทมนัสแห่งจิตบ้าง, เพราะปาณาติบาตเป็นปัจจัย; ภัยเวรนั้นๆเป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากปาณาติบาต ทำให้สงบรำงับได้แล้ว.
(๒)ดูก่อนคหบดี! บุคคลผู้ถือเอาสิ่งของที่เขาไม่ได้ให้อยู่เป็นปรกติ ย่อมประสบภัยเวรใดในทิฏฐธรรมบ้าง, ย่อมประสบภัยเวรใด ในสัมปรายิกบ้าง, ย่อม เสวยทุกขโทมนัสแห่งจิตบ้าง, เพราะอทินนาทานเป็นปัจจัย; ภัยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากอทินนาทาน ทำให้สงบรำงับได้แล้ว.
(๓)ดูก่อนคหบดี! บุคคลผู้ประพฤติผิดในกามทั้งหลายอยู่เป็นปรกติ ย่อมประสบภยเวรใด ในทิฏฐธรรมบ้าง, ย่อมประสบภยเวรใด ในสัมปรายิกบ้าง, ย่อม เสวยทุกขโทมนัสแห่งจิตบ้าง, เพราะกาเมสุมิจฉาจารเป็นปัจจัย; ภยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากกาเมสุมิจฉาจาร ทำให้สงบรำงับได้แล้ว.
(๔)ดูก่อนคหบดี! บุคคลผู้กล่าวคำเท็จอยู่เป็นปรกติ ย่อมประสบภยเวรใดในทิฏฐธรรมบ้าง, ย่อมประสบภยเวรใด ในสัมปรายิกบ้าง,ย่อมเสวยทุกขโทมนัสแห่งจิตบ้าง, เพราะมุสาวาทเป็นปัจจัย; ภยเวรนั้นๆเป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากมุสาวาท ทำให้สงบรำงับได้แล้ว.
(๕)ดูก่อนคหบดี! บุคคลผู้ดื่มสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งของความประมาทอยู่เป็นปรกติ ย่อมประสบภยเวรใด ในทิฏฐธรรมบ้าง, ย่อมประสบภยเวรใด ในสัมปรายิกบ้าง, ย่อมเสวยทุกขโทมนัสแห่งจิตบ้าง, เพราะสุราเมรยปานะเป็นปัจจัย; ภยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วสุราเมรยปานะ ทำให้สงบรำงับได้แล้ว.
ดูก่อนคหบดี! ภยเวร ๕ ประการเหล่านี้แล อันอริยสาวกทำให้สงบรำงับได้แล้ว.
… … … …
คู่มือโสดาบัน หน้า ๔
(ภาษาไทย) มหาวาร. สํ. ๑๙/๓๔๕/๑๔๑๔-๑๔๑๕
-----
ฐานะที่เป็นไปไม่ได้สำหรับผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ (พระโสดาบัน) (นัยที่หนึ่ง)

 ภิกษุทั้งหลาย ! ฐานะที่ไม่อาจเป็นไปได้ ๖ ประการ เหล่านี้ มีอยู่. หกประการ เหล่าไหนเล่า ? หกประการ คือ : -

ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่อาจอยู่อย่างไม่มีความเคารพยำเกรง ในพระศาสดา;ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่อาจอยู่อย่างไม่มีความเคารพยำเกรง ในพระธรรม; ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่อาจอยู่อย่างไม่มีความเคารพยำเกรง ในพระสงฆ์; ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่อาจอยู่อย่างไม่มีความเคารพยำเกรง ในสิกขา; ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่อาจมาสู่อนาคมนียวัตถุ (วัตถุที่ไม่ควรเข้าหา); ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่อาจยังภพที่แปดให้เกิดขึ้น.

ภิกษุทั้งหลาย ! เหล่านี้แลฐานะที่ไม่อาจเป็นไปได้ ๖ ประการ.

คู่มือโสดาบัน หน้า ๑๑๒

(ภาษาไทย) ฉกฺก. อํ. ๒๒/๓๙๒/๓๖๓

https://www.youtube.com/watch?v=aHUFiw9bdB8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น