วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560

กลุ่มพุทธวจนสถาบันกรุงเทพฯ แสดงความกตัญญูกตเวที สักการะ บูชา ครู อาจารย์...





รักษาศาสนา..ด้วยการ..ช่วยกันศึกษา..ปฏิบัติ..เผยแผ่..แต่คำตถาคต

เพจ พุทธวจน อริยสัจจากพระโอษฐ์ โดย ตะวัน พุทธวจน BN.4386

https://www.facebook.com/groups/679713432115426/.....

กลุ่มพุทธวจนสถาบันกรุงเทพฯ แสดงความกตัญญูกตเวที สักการะ บูชา ครู อาจารย์ 18/01/60 (ตัดต่อจากสนทนาธรรมเช้าวันพุธที่ 18 มกราคม 2560 (วันเกิดพระอาจารย์)[Cr.คุณป๊อก บางกรวย] วันที่ศิษย์มีโอกาสได้แสดงความกตัญญูกตเวที.แสดงมุฑิตาจิต..เคารพ สักการะ.เคารพ.บูชา..คุณ ครู บา อาจารย์..ที่เมตตาถ่ายทอดบอกสอน..

คลิปยูทูป https://youtu.be/FyLmT8HP2U0

คลิปเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/100012607659827/videos/255429904887263/

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๒ จำพวกนี้หาได้ยากในโลก ๒ จำพวกเป็นไฉน คือ

บุพพการีบุคคล ๑ กตัญญูกตเวทีบุคคล ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๒ จำพวกนี้

แลหาได้ยากในโลก

--------------------------------------------------------------------------

บุพพการีบุคคล คือ บุคคลที่ทำอุปการะก่อน

กตัญญูกตเวทีบุคคล คือ บุคคลที่กระทำตอบแทนพระคุณ ด้วยความรู้คุณ หรือ ประกาศ

คุณของบุคคลที่ทำคุณนั้น

พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๐

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต

หน้าที่ ๘๑ ข้อที่ ๓๖๓ - ๓๖๔

-----------------------------------------------------------------------------

พระพุทธเจ้า เป็นบุพพการี คือ ทรงแสดงธรรม เพื่อประโยชน์กับสัตว์โลกให้เกิด

ปัญญา ละกิเลส โดยไม่ได้หวังอะไรจากสัตวืโลก และ ทำอุปการะกับสัตว์โลกก่อน

จึงชื่อว่า บุพพการีที่ประเสริฐสูงสุด และ หาได้ยาก เพราะ พระพุทธเจ้าหาได้ยากใน

โลกทั้งหมด บุพพการีจึงหาได้ยากในโลก โดยนัยนี้

พระอริยสาวก ชื่อว่า กตัญญูกตเวที เพราะ ประพฤติตามพระธรรมที่พระพุทะเจ้าทรง

แสดง กตัญญุในพระคุณของพระพุทธเจ้า รู้คุณของพระพุทธเจ้าด้วยปัญญา และรู้คุณ

ของพระธรรมด้วยปัญญา และปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรม จึงชื่อว่า กตัญญูกตเวที

พระอริยสาวก ผู้บรรลุธรรมหาได้ยากในโลก เมื่อเทียบกับสัตว์โลกทั้งหมด กตัญญู

กตเวที จึงหาได้ยากในโลก

-------------------------------------------------------------------------

" ผู้ไม่รู้ปฏิจจสมุปบาท ยังมีหน้าที่ ต้องเที่ยวแสวงหาครู "

อันตรไปยยาลที่ ๙

[๓๐๙] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ฯลฯ ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นชรามรณะตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในชรามรณะตามเป็นจริง บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นเหตุเกิดแห่งชรามรณะตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในเหตุเกิดแห่งชรามรณะตามเป็นจริง บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นความดับแห่งชรามรณะตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในความดับแห่งชรามรณะตามเป็นจริง

บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นปฏิปทาอันให้ถึงความดับแห่งชรามรณะตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในปฏิปทาอันให้ถึงความดับแห่งชรามรณะตามเป็นจริง ฯ

[ไปยยาลแห่งบาลีประเทศทั้งปวงอย่างนี้]

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นชาติตามความเป็นจริง ... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นภพตามเป็นจริง ... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นอุปาทานตามเป็นจริง ... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นตัณหาตามเป็นจริง ...

เมื่อไม่รู้ไม่เห็นเวทนาตามเป็นจริง ... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นผัสสะตามเป็นจริง ... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นสฬายตนะตามเป็นจริง ... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นนามรูปตามความเป็นจริง ... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นวิญญาณตามความเป็นจริง ...

เมื่อไม่รู้ไม่เห็นสังขารทั้งหลายตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในสังขารทั้งหลายตามเป็นจริง เมื่อไม่รู้ไม่เห็นเหตุเกิดแห่งสังขารตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในเหตุเกิดแห่งสังขารตามเป็นจริง เมื่อไม่รู้ไม่เห็นความดับแห่งสังขารตามเป็นจริงพึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ความดับแห่งสังขารตามเป็นจริง เมื่อไม่รู้ไม่เห็นปฏิปทาอันให้ถึงความดับแห่งสังขารตามเป็นจริงพึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในปฏิปทาอันให้ถึงความดับแห่งสังขารตามเป็นจริง ฯ

[พึงกระทำกิจในอริยสัจ ๔ แห่งปัจจยาการทั้งปวง เป็นสูตรหนึ่งๆ ]

[๓๑๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นชราและมรณะตามเป็นจริง พึงกระทำความศึกษาเพื่อความรู้ในชราและมรณะตามความเป็นจริง ฯ

[ไปยยาลอย่างนี้ พึงกระทำกิจอันเป็นไปในสัจจะ ๔]

พึงกระทำความเพียร ...

พึงกระทำฉันทะ ...

พึงกระทำความอุตสาหะ...

พึงกระทำความไม่ย่อท้อ ... พึงกระทำความเพียรแผดเผากิเลส ...

พึงกระทำความเป็นผู้กล้า ...

พึงกระทำความเพียรเป็นไปติดต่อ ...

พึงกระทำสติ ...

พึงกระทำสัมปชัญญะ ...

พึงกระทำความไม่ประมาท ...

ดังนี้แล ฯ

- ไทย(ฉบับหลวง)๑๖/๑๒๘/๓๐๙.

#ผู้ใดชอบธรรมของพระผู้มีพระภาคนั้น ผู้นั้นจงมา

กราบนมัสการ..พระพุทธ..พระธรรม..พระสงฆ์สาวก..ด้วยเศียรเกล้า..

17 มีนาคม · เพจ พุทธวจน อริยสัจจากพระโอษฐ์

พอจ.ท่านเป็นคนที่พามหาชนเข้าเฝ้าพระตถาคตโดยตรง มหาชนข้องใจเรื่องใด ก็เข้าเฝ้าพระองค์ได้ตลอด ท่านตรงไปตรงมา มีแอปพลิเคชั่น ให้เทียบเคียงพระพุทธวจน ด้วย ไม่ปกปิดข่าวสานน์ ไม่ตระหนี่ธรรม

ตะวัน พุทธวจน BN.4386 (( รับชมคลิป พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล.กับการ..เชื่อมโยงพระสูตร..ที่ลึกขึ้นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง.ได้จาก 5 ช่องทาง..สร้างเหตุไปแต่ทางเจริญอย่างเดียว..ไม่ถึงความเสื่อม.. ))

link ;; ทวิตเตอร์ ;; https://twitter.com/fantachaleeporn

link;; G+ ;; https://plus.google.com/u/0/+ChaleepornInrodBNNo312

link;; blogger ;; http://buddhawajana252.blogspot.com/

link ;;ช่อง YouTube; https://www.youtube.com/c/ChaleepornInrodBNNo312

link ;; facebook ; 5 เฟส

เฟส 1 ;; https://www.facebook.com/profile.php?id=100012502933592

เฟส 2 ;; https://www.facebook.com/profile.php?id=100012607659827

เฟส 3 ;; https://www.facebook.com/fata.chalee

เฟส 4 ;; https://www.facebook.com/profile.php?id=100010716036268

เฟส 5 ;; https://www.facebook.com/profile.php?id=100012410853671

เปิดธรรมที่ถูกปิดด้วยพุทธวจน

โดยพอจ.คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาส วัดนาป่าพง ลำลูกกาคลอง10 จังหวัด ปทุมธานี

เพจ พุทธวจน อริยสัจจากพระโอษฐ์

โดย : ตะวัน พุทธวจน BN.4386

https://www.facebook.com/groups/679713432115426/

***รักษาศาสนาพุทธ ด้วยการช่วยกัน

ศึกษา ปฏิบัติ เผยแผ่ แต่คำตถาคต***

ขอบพระคุณเว็ปไซต์จากวัดนาป่าพง

http://watnapp.com/ และ คุณป๊อก บางกรวย

**********

******

#ทำอย่างไรผู้ไม่สมบูรณ์ #จะไปแต่ทางเจริญไม่เสื่อมเลย

บุคคลใด...

#มากระทำกิจเนื่องด้วยการฟัง

#มากระทำกิจเนื่องด้วยความเป็นพหูสูต

#มาแทงตลอดอย่างดีด้วยทิฏฐิ

#บุคคลผู้นี้จะไปแต่ทางเจริญอย่างเดียว ไม่ไปทางเสื่อมเลย...

----------

#บุคคล๖จำพวก

(1,2) เป็นผู้งดเว้นจากบาป มีการอยู่ร่วม เป็นสุข

-พวกชนที่ประพฤติพรหมจรรย์ร่วมกัน

ย่อมยินดียิ่งด้วยการอยู่ร่วมกัน

(3,4) -มีความโกรธและความถือตัว บางครั้งบาง คราว

-โลกธรรมย่อมเกิดแก่เขา

(5,6) มีความโกรธและความถือตัว บางครั้ง บางคราว

-วจีสังขารย่อมเกิดแก่เขา

-------------------------------

-เขาได้ทำกิจแม้ด้วยการฟัง

-ได้ทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต

-ได้แทงตลอดแม้ด้วยทิฐิ ย่อมได้วิมุตติแม้ที่เกิดในสมัย

เมื่อตายไปแล้ว เขาย่อมไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม

เป็นผู้ถึงทางเจริญ ไม่เป็นผู้ถึงทางเสื่อม

----------------------------

-เขาไม่ได้กระทำกิจแม้ด้วยการฟัง

-ไม่ได้กระทำกิจแม้ด้วย ความเป็นพหูสูต

-ไม่ได้แทงตลอดแม้ด้วยทิฐิ

-ย่อมไม่ได้วิมุตติแม้ที่เกิดในสมัย

เมื่อตายไป แล้ว เขาย่อมไปทางเสื่อม

ไม่ไปทางเจริญ เป็นผู้ถึงทางเสื่อม ไม่เป็นผู้ถึงทางเจริญ ฯ

--------------------------------

พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๒

พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต

หน้าที่ ๓๑๘/๔๐๗ข้อที่ ๓๑๕

-------------------------------

อ่านพุทธวจน เพิ่มเติมได้จาก โปรแกรม E-Tipitaka

http://etipitaka.com/read…

-----------------------------

ฟังพุทธวจน บรรยายได้ที่ www.watnapp.com

*****

----------------

ศึกษา พุทธวจน(คำของพระพุทธเจ้า)ได้ที่นี่

http://www.buddhakos.org/

http://watnapp.com/

http://media.watnapahpong.org/

http://www.buddhaoat.org/

******

#ธรรมเทศนาของภิกษุชนิดไร บริสุทธิ์ ..

"พระผู้มีพระภาคได้ตรัสดังนี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งมีความคิดอย่างนี้ว่า โอหนอ ชนทั้งหลายพึงฟังธรรมของเรา ก็แลครั้นฟังแล้วพึงเลื่อมใสซึ่งธรรม ผู้ที่เลื่อมใสแล้วเท่านั้น จะพึงทำอาการของผู้เลื่อมใสต่อเราดังนี้ ย่อมแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น ภิกษุทั้งหลาย ธรรมเทศนาของภิกษุอย่างนี้ไม่บริสุทธิ์

ส่วนภิกษุใดแล เป็นผู้มีความคิดอย่างนี้ว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีแล้ว เป็นข้อปฏิบัติอันผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบ

ด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามาในตน อันวิญญูชนจะพึงรู้เฉพาะตนโอหนอ ชนทั้งหลายพึงฟังธรรมของเรา ก็แลครั้นฟังแล้ว จะพึงรู้ทั่วถึงธรรมก็แลครั้นรู้ทั่วถึงแล้ว จะพึงปฏิบัติเพื่อความเป็นอย่างนั้น ดังนี้ จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น

อาศัยความที่แห่งพระธรรมเป็นธรรมอันดี จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น

อาศัยความกรุณา จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น

อาศัยความเอ็นดู จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น

อาศัยความอนุเคราะห์ จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น

ด้วยประการฉะนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเทศนาของภิกษุเห็นปานนี้แล บริสุทธิ์ ฯ"

*******************

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘

สังยุตตนิกาย นิทานวรรค

๓. จันทูปมสูตร

*****

-บาลี มู. ม. ๑๒/๔๘๗/๔๕๔.

#ภิกษุทั้งหลาย ! ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ผู้ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกคนที่ควรฝึก ไม่มีใครยิ่งกว่า เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้เบิกบานแล้วจำแนกธรรมออกสั่งสอนสัตว์.

ภิกษุทั้งหลาย ! ตถาคตนั้น ได้ทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้กับทั้งเทวดา มาร พรหม ซึ่งหมู่สัตว์ กับทั้งสมณพราหมณ์ พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้แจ้งตาม.

ตถาคตนั้น แสดงธรรมไพเราะ ในเบื้องต้น ในท่ามกลาง และในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถะ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง.

-บาลี มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๑๗/๗๔๐.

#อานนท์ ! พวกเธอทั้งหลาย จงมีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ อย่าเอาสิ่งอื่นเป็นสรณะเลย จงมีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ อย่ามีสิ่งอื่นเป็นสรณะเลย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น