วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

พระอาจารย์คึกฤทธิ์-สนทนาธรรมเช้าวันพุธ_ก่อนฉัน_2015-04-01



‪#‎ผู้เงี่ยโสตลงฟัง‬ ชื่อว่า ‪#‎เป็นผู้มีอุปนิสัย‬

ประโยชน์ของการประชุมสนทนากัน คือ วิมุตติ

https://www.youtube.com/watch?v=ztJ2IDQBM80

กถาวัตถุสูตร

[๕๐๗] ๖๘. ดูกรภิกษุทั้งหลาย กถาวัตถุ ๓ อย่างหนึ่ง

๓ อย่างเป็นไฉน คือ พูดถ้อย

-

คำปรารภถึงอดีตกาลว่า อดีตกาลได้มีแล้วอย่างนี้ ๑

พูดถ้อยคำปรารภถึงอนาคตกาลว่า อนาคตกาลจักมีอย่างนี้ ๑

พูดถ้อยคำปรารภถึงปัจจุบันกาลว่า ปัจจุบันกาลย่อมมีอย่างนี้ ๑

-

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

จะพึงทราบบุคคลว่า

‪#‎ควรพูดหรือไม่ควรพูด‬ ก็ด้วยประชุมสนทนากัน

-

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

ถ้าบุคคลถูกถามปัญหา

ไม่เฉลยโดยส่วนเดียว

ซึ่งปัญหาที่ควรเฉลยโดยส่วนเดียว

ไม่จำแนกเฉลย

ซึ่งปัญหาที่ควรจำแนกเฉลย

ไม่สอบถามเฉลย

ซึ่งปัญหาที่ควรสอบถามเฉลย

ไม่หยุดปัญหาที่ควรหยุด

เมื่อเป็นเช่นนี้

บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ควรพูด

-

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

แต่ถ้าบุคคลถูกถามปัญหา

ย่อมเฉลยโดยส่วนเดียว

ซึ่งปัญหาที่ควรเฉลยโดยส่วนเดียว

ย่อมจำแนกเฉลย

ซึ่งปัญหาที่ควรจำแนก

เฉลย่อมสอบถามเฉลย

ซึ่งปัญหาที่ควรสอบถามเฉลย

ย่อมหยุดปัญหาที่ควรหยุด

เมื่อเป็นเช่นนี้

บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ควรพูด

-

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

จะพึงทราบบุคคลผู้ควรพูดหรือไม่ควรพูด

ก็ด้วยประชุมสนทนากัน

-

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

ถ้าบุคคลเมื่อถูกถามปัญหา

ไม่ดำรงอยู่ในฐานะและอฐานะ

ไม่ดำรงอยู่ในปริกัป

ไม่ดำรงอยู่ในวาทะที่ควรรู้ทั่วถึง

ไม่ดำรงอยู่ในปฏิปทา

เมื่อเป็นเช่นนี้

บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ควรพูด

-

แต่ถ้าบุคคลเมื่อถูกถามปัญหา

ดำรงอยู่ในฐานะและอฐานะ

ดำรงอยู่ในปริกัป

ดำรงอยู่ในวาทะที่ควรรู้ทั่วถึง

ดำรงอยู่ในปฏิปทา

เมื่อเป็นเช่นนี้

บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ควรพูด

-

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

จะพึงทราบบุคคลว่า ควรพูดหรือไม่ควรพูด

ก็ด้วยประชุมสนทนากัน

ถ้าบุคคลถูกถามปัญหา

พูดกลบเกลื่อน

พูดนอกเรื่องนอกราว

แสดงความโกรธ

ความขัดเคือง

และความเสียใจให้ปรากฏ

เมื่อเป็นเช่นนี้

บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ควรพูด

-

แต่ถ้าบุคคลเมื่อถูกถามปัญหา

ไม่---พูดกลบเกลื่อน

ไม่พูดนอกเรื่องนอกราว

ไม่แสดงความโกรธ

ความขัดเคือง

และความเสียใจให้ปรากฏ

เมื่อเป็นเช่นนี้

บุคคลนี้ชื่อว่าควรพูด

-

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

จะพึงทราบบุคคลว่า ควรพูดหรือไม่ควรพูด

ก็ด้วยประชุมสนทนากัน

-

ถ้าบุคคลถูกถามปัญหา

พูดฟุ้งเฟ้อ

พูดวุ่นวาย

หัวเราะเยาะ

คอยจับผิด

เมื่อเป็นเช่นนี้บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ควรพูด

-

แต่ถ้าบุคคลเมื่อถูกถามปัญหา

ไม่พูดฟุ้งเฟ้อ

ไม่พูดวุ่นวาย

ไม่หัวเราะเยาะ

ไม่คอยจับผิด

เมื่อเป็นเช่นนี้

บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ควรพูด

-

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

พึงทราบบุคคลว่า ‪#‎มีอุปนิสัยหรือว่าไม่มีอุปนิสัย‬

ก็ด้วยประชุมสนทนากัน

ผู้ไม่เงี่ยโสตลงฟัง ชื่อว่าเป็นคนไม่มีอุปนิสัย

ผู้ที่เงี่ยโสตลงฟัง ชื่อว่าเป็นคนมีอุปนิสัย

เมื่อเขาเป็นผู้มีอุปนิสัย ย่อมจะรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง

ซึ่งธรรมอย่างหนึ่ง ย่อมจะกำหนดรู้ธรรมอย่างหนึ่ง

ย่อมจะละธรรมอย่างหนึ่งย่อมจะทำให้แจ้งซึ่งธรรมอย่างหนึ่ง

เมื่อเขารู้ด้วยปัญญาอันยิ่งซึ่งธรรมอย่างหนึ่ง

กำหนดรู้ธรรมอย่างหนึ่งละธรรมอย่างหนึ่ง

ทำให้แจ้งซึ่งธรรมอย่างหนึ่ง

ย่อมจะถูกต้องวิมุตติโดยชอบ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

‪#‎การสนทนามีข้อนี้เป็นประโยชน์‬

‪#‎การปรึกษาหารือมีข้อนี้เป็นประโยชน์‬

‪#‎อุปนิสัยมีข้อนี้เป็นประโยชน์‬

‪#‎การเงี่ยโสตลงฟังมีข้อนี้เป็นประโยชน์‬

คือ

‪#‎จิตหลุดพ้นเพราะไม่ถือมั่น‬ ฯ

-

พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๐

พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต

หน้าที่ ๑๘๘/๒๙๐ ข้อที่ ๕๐๗

http://etipitaka.com/read…

---

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น