วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558
พุทธวจน-ควรใช้ธรรมข้อใดมาใช้ในช่วงที่ชีวิตมีปัญหา ?
ควรใช้ธรรมข้อใดมาใช้ในช่วงที่ชีวิตมีปัญหา ?
https://www.youtube.com/watch?v=okb1gtPrXss&feature=youtu.be
1. เป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีลทั้งหลาย (ศีล ๕)
2. ไม่เหินห่างจากฌาน(อานาปานสติชั่วลัดนิ้วมือ)
3. ประกอบด้วยวิปัสสนา (คือปัญญา เครื่องวัดปัญญา.เห็นเกิด ดับ)
4. เพิ่มพูนการอยู่เรือนว่างเปล่าเถิด(วิเวกในจิตก็ได้..ตั้งไว้ซึ่งกายคตาสติ..)
--
#เธอจะได้ทุกสิ่งตามปรารถนา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุพึงหวังว่า
เราพึงเป็นที่รัก
ที่ชอบใจที่เคารพ
และที่ยกย่องของสพรหมจารีทั้งหลายไซร้
-
ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีลทั้งหลาย
ประกอบด้วยความสงบใจในภายใน
ไม่เหินห่างจากฌาน
ประกอบด้วยวิปัสสนา
เพิ่มพูนการอยู่เรือนว่างเปล่าเถิด
-
ถ้าภิกษุพึงหวังว่า
เราพึงเป็นผู้ได้จีวร บิณฑบาต
เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขารทั้งหลาย
..................
-
ถ้าภิกษุพึงหวังว่า
เราบริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร
ของชนเหล่าใด ขอสักการะของชนเหล่านั้นพึงมีผลมาก
มีอานิสงส์มากไซร้
-..........................
ถ้าภิกษุพึงหวังว่า ญาติสาโลหิตเหล่าใด
ผู้ละไปแล้วกระทำกาละแล้วมีจิตเลื่อมใส
ย่อมตามระลึกถึง
ขอการระลึกถึงแห่งญาติสาโลหิตเหล่านั้น
พึงมีผลมาก
มีอานิสงส์มากไซร้
-............
ถ้าภิกษุพึงหวังว่า เราพึงเป็นผู้สันโดษด้วยจีวรบิณฑบาต
เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขารตามมีตามได้ไซร้
-........
ถ้าภิกษุพึงหวังว่า เราพึงเป็นผู้อดทนต่อหนาว
ร้อน หิว กระหาย เหลือบ ยุงลม แดด
และสัมผัสแห่งสัตว์เสือกคลาน ถ้อยคำอันหยาบช้า
พึงเป็นผู้อดกลั้นต่อทุกขเวทนาอันมีในสรีระที่เกิดขึ้นแล้ว
กล้าแข็ง เผ็ดร้อน อันไม่ชื่นใจไม่พอใจ อันนำชีวิตไปไซร้
-.....
ถ้าภิกษุพึงหวังว่า
เราพึงเป็นผู้ครอบงำความไม่ยินดี
และความยินดี และขอความไม่ยินดีและ
ความยินดีไม่พึงครอบงำเรา
เราพึงครอบงำความไม่ยินดี
และความยินดีอันเกิดขึ้นแล้วอยู่ไซร้
-....
ถ้าภิกษุพึงหวังว่า
เราพึงเป็นผู้ครอบงำภัยและความหวาดเสียว
และขออภัยและความหวาดเสียวไม่พึงครอบงำเราได้
เราพึงเป็นผู้ครอบงำภัยและความหวาดเสียวที่เกิดขึ้นแล้วอยู่ไซร้
-...
ถ้าภิกษุพึงหวังว่า
เราพึงเป็นผู้ได้ตามความปรารถนา
ได้โดยไม่ยาก
ไม่ลำบาก ซึ่งฌาน ๔ อันมีในจิตยิ่ง
เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบันไซร้
-....
ถ้าภิกษุพึงหวังว่า
เราพึงทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ
อันหาอาสวะไม่ได้
เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป
ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ไซร้
-...
ภิกษุเหล่านั้น
พึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีลทั้งหลาย
ประกอบความสงบใจในภายใน
ไม่เหินห่างจากฌาน
ประกอบด้วยวิปัสสนา
เพิ่มพูนการอยู่เรือนว่างเปล่าเถิด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คำที่เรากล่าวว่า
เธอทั้งหลายจงเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล
สมบูรณ์ด้วยปาติโมกข์อยู่เถิด
จงเป็นผู้สำรวมด้วยความสำรวมในปาติโมกข์
ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจรอยู่เถิด
จงเป็นผู้เห็นภัยในโทษทั้งหลายอันมีประมาณน้อย
สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลายเถิด ดังนี้
เราอาศัยข้อนี้กล่าวแล้ว ฯ
จบสูตรที่ ๑
พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๔
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖ อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
หน้าที่ ๑๑๗/๓๓๓ ข้อที่ ๗๑
http://etipitaka.com/read…
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น