วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558
การรู้อริยสัจ รีบด่วนกว่าการดับไฟ
การรู้อริยสัจ รีบด่วนกว่าการดับไฟที่กำลังไหม้อยู่บนศีรษะ
https://www.youtube.com/watch?v=UbshBEDyCy4
[พุทธวจน]
ภิกษุ ท. ! เมื่อไฟลุกโพลงๆอยู่ที่เสื้อผ้าก็ดีที่ศีรษะก็ดี บุคคลนั้น
ควรจะทำอย่างไร ?
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เมื่อไฟลุกโพลง ๆ อยู่ที่เสื้อผ้าก็ดีที่ศีรษะก็ดี, เพื่อจะ
ดับเสียซึ่งไฟ ที่เสื้อผ้าก็ดี ที่ศีรษะก็ดี สิ่งที่บุคคลนั้นพึงกระทำโดยยิ่งก็คือ ฉันทะ วายามะ
อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี อัปปฏิวานี สติ และสัมปชัญญะ (เพื่อจะดับไฟนั้นเสีย).”
ภิกษุ ท. ! (แม้กระนั้นก็ดี) วิญญูชนจะไม่ใส่ใจ จะไม่เอาใจใส่กับ
เสื้อผ้าก็ดีศีรษะก็ดีที่ไฟกำลังลุกโพลงอยู่ ; แต่จะรู้สึกว่า สิ่งที่ควรกระทำโดยยิ่ง
ก็คือฉันทะ วายามะ อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี (ขะมักเขม้น) อัปปฏิวานี (ไม่ถอยหลัง)
สติ และสัมปชัญญะ เพื่อรู้เฉพาะตามเป็นจริง ซึ่งอริยสัจทั้งสี่ที่ตนยังไม่รู้
เฉพาะ.
อริยสัจสี่ อย่างไรเล่า ? สี่อย่างคือ อริยสัจคือทุกข์ อริยสัจคือเหตุให้
เกิดขึ้นแห่งทุกข์ อริยสัจคือความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ อริยสัจคือทางดำเนินให้
ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.
ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอพึงประกอบโยคกรรมอัน
เป็นเครื่องกระทำให้รู้ว่า “ทุกข์เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้,
ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้, ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่ง
ทุกข์ เป็นอย่างนี้” ดังนี้.
- มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๕๐/๑๗๑๗.
[สาธยายโดย พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล]
“อริยสัจสี่” พระพุทธเจ้าอุปมาขนาดว่า ไฟไหม้ผมบนศรีษะของโยม โยมทำอะไรก่อน?
ดับไฟไหม้ก่อนใช่มะ พระพุทธเจ้าบอกยังไม่ต้องดับ มารู้อริยสัจสี่ก่อน
ตายแล้วไม่ไปนรก นี่โยมดูพระพุทธเจ้าบอกนี่ “ภิกษุ ท. !
เมื่อไฟลุกโพลงๆอยู่ที่เสื้อผ้าก็ดีที่ศีรษะก็ดี บุคคลนั้น
ควรจะทำอย่างไร ?” ทุกคนจะตอบแบบโยมหมดเลย “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
เมื่อไฟลุกโพลง ๆ อยู่ที่เสื้อผ้าก็ดีที่ศีรษะก็ดี
สิ่งที่บุคคลนั้นพึงกระทำโดยยิ่งก็คือ ฉันทะ วายามะ
อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี อัปปฏิวานี สติ และสัมปชัญญะ (เพื่อจะดับไฟนั้นเสีย).”
“ภิกษุ ท. ! (แม้กระนั้นก็ดี) วิญญูชนจะไม่ใส่ใจ จะไม่เอาใจใส่กับ
เสื้อผ้าก็ดีศีรษะก็ดีที่ไฟกำลังลุกโพลงอยู่ ; แต่จะรู้สึกว่า
สิ่งที่ควรกระทำโดยยิ่ง
ก็คือฉันทะ วายามะ อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี (ขะมักเขม้น) อัปปฏิวานี (ไม่ถอยหลัง)
สติ และสัมปชัญญะ เพื่อรู้เฉพาะตามเป็นจริง ซึ่งอริยสัจทั้งสี่ที่ตนยังไม่รู้
เฉพาะ.”
ทุกข์ สมุทัย(เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์) นิโรธ(การดับทุกข์) เพราะอะไร
พระพุทธเจ้าบอกว่า เหตุผลในพระสูตรอื่นพระพุทธเจ้าบอกอีกว่า
เพราะการที่เธอตายเพราะสิ่งๆนั้น อาจจะพาเธอไปนรกเลยก็ได้
เพราะเธอทุกข์ทรมาน และเธอไม่มีวิธีดับความทุกข์ทรมานขณะนั้น
แต่ถ้าเธอรู้อริยสัจสี่ก่อน โยมทุกข์ทรมานขนาดไหนโยมก็สำรวมจิตให้สงบได้
เอาตัวรอดได้แล้ว กายแตกทำลายก็แตกทำลายไป แต่เราเข้ามรรคผลนิพานได้
หรือเราเข้าไปสู่สัมปรายภพ สัมปรายภพ ภพภูมิที่ดีได้ ไปสู่สุขติภพได้
มันต่างกันเยอะ
-
ความสำคัญคือรอดพ้นจาก อบาย ทุคติ วินิบาตนรกให้ได้
เพราะว่าถ้าหล่นไปแล้ว ยิงยาวเลยนะ
โอกาสที่จะขึ้นมาเป็นมนุษย์นี่ยาก
แล้วพระพุทธเจ้าบอกเลยว่า
ท่านไม่เห็นการจองจำอื่นใดที่ทารุณ เจ็บปวด โหดร้าย
เท่ายิ่งกว่าการถูกจองจำในนรกกำเนิด ดิรัจฉาน เปรตวิสัย
เพราะฉะนั้นกับแค่ไฟไหม้ผมบนศีรษะเนี่ย
เดี๋ยวๆ มารู้อริยสัจสี่ก่อน
เพราะมันยังมีอะไรที่ร้อนกว่านั้น ไฟในนรกร้อนกว่า
เดี๋ยวจะร่วงลงไป
เดี๋ยวจะเสียใจ อย่าไปเยี่ยมเลย
เพราะฉะนั้นอริยสัจสี่เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องรู้เร่งด่วนอันดับหนึ่ง
ถ้าตกลงไปแล้วนี่กว่าจะขึ้นมามันยาก
-
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น