วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2559

พุทธวจน นิพพานธาตุ 2 ประการ



พุทธวจน นิพพานธาตุ 2 ประการ

ธาตุสูตร [๒๒๒] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย นิพพานธาตุ ๒ ประการนี้ ๒ ประการเป็นไฉน คือ สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ ๑ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระอรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้ว มีประโยชน์ของตนอันบรรลุแล้ว มีสังโยชน์ในภพนี้สิ้นรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ ภิกษุนั้นย่อมเสวยอารมณ์(หมายถึง ย่อมยังมีเวทนาอยู่เป็นธรรมดาของชีวิต จึงมี)ทั้งที่พึงใจและไม่พึงใจ ยังเสวยสุขและทุกข์อยู่ (ก็)เพราะความที่อินทรีย์ ๕ เหล่าใด(อัน)เป็นธรรมชาติ(ของขันธ์หรือชีวิต ยัง)ไม่บุบสลาย(แตกดับไป) อินทรีย์ ๕ เหล่านั้นของเธอยังตั้งอยู่นั่นเทียว ดูกรภิกษุทั้งหลาย (เราจึงเรียก)ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ ของภิกษุนั้น(ที่ยังดำรงขันธ์หรือชีวิตอยู่) นี้เราเรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระอรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้ว มีประโยชน์ของตนอันบรรลุแล้ว มีสังโยชน์ในภพสิ้นรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ เวทนาทั้งปวงในอัตภาพนี้แหละของภิกษุนั้น(อันย่อม)เป็นธรรมชาติ(ของชีวิตเมื่อยังดำรงชีวิตหรือขันธ์อยู่) (ดังนั้น)อัน(เมื่อ)กิเลสทั้งหลายมีตัณหาเป็นต้น(ย่อม)ให้เพลิดเพลินมิได้แล้ว (จึงย่อม)จักเย็น ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ
(สำนวนตรงนี้ อาจตีความจนเกิดวิจิกิจฉาได้ แต่มีความหมายถึง เวทนาทั้งปวง ย่อมสิ้นไปตามหลักปฏิจจสมุปบันธรรม เพราะถึงกาละหรือความตายแล้ว จึงไม่เสวยเวทนาทั้งปวงแม้ในอินทรีย์ ๕ ดังสอุปาทิเสสนิพพานข้างต้น ; หรือเป็นดังที่ท่านพุทธทาสภิกขุได้กล่าวแสดงความหมายของนิพพานในอีกลักษณาการหนึ่งซึ่งดีงามเช่นกัน) ดูกรภิกษุทั้งหลาย นิพพานธาตุ ๒ ประการ นี้แล ฯ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้วในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า นิพพานธาตุ ๒ ประการนี้ พระตถาคต ผู้มีจักษุผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยแล้ว ผู้คงที่ ประกาศไว้แล้ว อันนิพพานธาตุ อย่างหนึ่งมีในปัจจุบันนี้ ชื่อว่า สอุปาทิเสส เพราะสิ้นตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพ ส่วนนิพพานธาตุ (อีกอย่างหนึ่ง) เป็นที่ดับสนิทแห่งภพทั้งหลายโดยประการทั้งปวงอันมีในเบื้องหน้าชื่อว่า อนุปาทิเสส ชนเหล่าใดรู้บทอันปัจจัยไม่ปรุงแต่งแล้วนี้ มีจิตหลุดพ้นแล้วเพราะสิ้นตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพ ชนเหล่านั้นยินดีแล้วในนิพพานเป็นที่สิ้นกิเลส เพราะบรรลุธรรมอันเป็นสาระ เป็นผู้คงที่ ละภพได้ทั้งหมด ฯ เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า ได้สดับมาแล้วฉะนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๗
-ขนฺธ สํ ๑๗/๑๐๑/๑๕๓ (อริยสัจจากพระโอษฐ์ หน้า ๖๑๗ พุทธทาสภิกขุ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น