วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559

ความหมายของคำว่าหลุดพ้น พุทธวจน

***ความหมายของคำว่าหลุดพ้น***(เชื่อมโยง.พระสูตร ต่อ พระสูตร สู่วิมุตติ)
โดยพอจ.คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล วัดนาป่าพง
#จิตหลุดพ้นแล้ว จิตหลุดพ้นจากอารมณ์
ไม่ใช่จิตเป็นตัวหลุดพ้น เพราะจิตไม่ใช่เรา
----
เพราะจิตหลุดพ้นแล้ว
จิตจึง ดำรงอยู่ (ตามสภาพของจิต) ;
เพราะเป็นจิตที่ดำรงอยู่ จิตจึง ยินดีร่าเริงด้วยดี ;
เพราะเป็นจิตที่ยินดีร่าเริงด้วยดี จิตจึง ไม่หวาดสะดุ้ง ;
เมื่อไม่หวาดสะดุ้ง ย่อม ปรินิพพาน (ดับรอบ) เฉพาะตน นั่นเทียว.
เธอนั้น ย่อม รู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ
ได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้.
- ขนฺธ. สํ. ๑๗/๕๗/๙๓.
..ฯลฯ..(link ; http://buddhawajana252.blogspot.com/…/…/blog-post_5246.html… )
--
#สิ่งใดเปลี่ยน สิ่งนั้นดับ ..ดังนัั้น ..จิตเป็นสังขตะ
[๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง
ที่เปลี่ยนแปลงได้เร็ว เหมือนจิต
-
ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตเปลี่ยนแปลงได้เร็วเท่าใดนั้น
แม้จะอุปมาก็กระทำได้
มิใช่ง่าย ฯ
-
#สัตว์หลงขันธ์๕ link ; พระสูตรเต็มๆ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1553602331537971&set=a.1410079375890268.1073741828.100006646566764&type=1&permPage=1
--
จิต มโน วิญญาณ ตัวเดียวกัน link ; พระสูตรเต็มๆ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1551820711716133&set=a.1410079375890268.1073741828.100006646566764&type=1&permPage=1
---
#มโน รู้ ตัวมันเองได้..
ภิกษุทั้งหลาย ! มโนวิญญาณเกิดขึ้นแล้ว
เพราะอาศัยปัจจัยที่ไม่เที่ยงดังนี้
มโนวิญญาณเป็นของเที่ยงมาแต่ไหน.
ความประจวบพร้อม ความประชุมพร้อม
ความมาพร้อมกัน แห่งธรรมทั้งหลาย
(มโน + ธรรมารมณ์ + มโนวิญญาณ) ๓ อย่างเหล่านี้อันใดแล;
ภิกษุทั้งหลาย ! อันนี้เราเรียกว่า มโนสัมผัส.
link ; พระสูตรเต็มๆ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1568285556736315&set=a.1410079375890268.1073741828.100006646566764&type=1&permPage=1
--
#คิดว่าจิตเป็นเรา
[๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ผุดผ่อง
แต่ว่าจิตนั้นแล เศร้าหมองด้วยอุปกิเลสที่
จรมา ฯ
--
link ; พระสูตรเต็มๆ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1605593836338820&set=a.1410079375890268.1073741828.100006646566764&type=1&permPage=1
--
วิญญาณ..ฐิติ ทำให้จิตเศร้าหมอง
link ; พระสูตรเต็มๆ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1458406247724247&set=a.1410079375890268.1073741828.100006646566764&type=1&permPage=1
--
#สิ่งๆ หนึ่ง เป็นความว่างเป็นสูญญตาที่รองรับ ขันธ์๕ ทั้งหมด
link ; พระสูตรเต็มๆ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1553599238204947&set=a.1410079375890268.1073741828.100006646566764&type=1&permPage=1
--
https://www.facebook.com/fata.chalee/posts/1683672755197594
--
#จิตหลุดพ้นจากขันธ์๔
#การละนันทิ (ความเพลิน) จิตหลุดพ้นแล้วด้วยดี
เมื่อเห็นอยู่โดยถูกต้อง ย่อมเบื่อหน่าย
(สมฺมา ปสฺสํ นิพฺพินฺทติ) ;
เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิ
จึงมีความสิ้นไปแห่งราคะ
(นนฺทิกฺขยา ราคกฺขโย) ;
เพราะความสิ้นไปแห่งราคะ
จึงมีความสิ้นไปแห่งนันทิ
(ราคกฺขยา นนฺทิกฺขโย ) ;
เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิและราคะ
กล่าวได้ว่า “จิตหลุดพ้นแล้วด้วยดี” ดังนี้.
(นนฺทิราคกฺขยา จิตฺตํ สุวิมุตฺตนฺติ วุจฺจติ).
(ในกรณีแห่งอายตนะภายในที่เหลืออีก ๕ คือ โสตะ ฆานะ
ชิวหา กายะ มโน และในกรณีแห่งอายตนะ ภายนอก ๖ คือ รูป เสียง
กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ก็ตรัสอย่างเดียวกันกับในกรณี แห่ง
จักษุ ทุกประการ.)
นันทิกขยวรรค สฬา.สํ. ๑๘ / ๑๗๙ / ๒๔๕-๖.
--
#สภาพความว่างรู้จักตัวมันเอง
..ฯลฯ..
เพราะจิตหลุดพ้นแล้ว
จิตจึง ดำรงอยู่ (ตามสภาพของจิต) ;
เพราะเป็นจิตที่ดำรงอยู่ จิตจึง ยินดีร่าเริงด้วยดี ;
เพราะเป็นจิตที่ยินดีร่าเริงด้วยดี จิตจึง ไม่หวาดสะดุ้ง ;
เมื่อไม่หวาดสะดุ้ง ย่อม ปรินิพพาน (ดับรอบ) เฉพาะตน นั่นเทียว.
เธอนั้น ย่อม รู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ
ได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้.
- ขนฺธ. สํ. ๑๗/๕๗/๙๓.
--
#อรหันต์ทั้งหลายไม่เพลินในนิพพาน
#ทรงรู้ยิ่ง
พระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพาน
ครั้นทรงรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระ นิพพานแล้ว
ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพาน
ย่อมไม่ทรงสำคัญในพระนิพพาน
ย่อมไม่ทรงสำคัญ โดยความเป็นพระนิพพาน
ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพานว่า ของเรา
ย่อมไม่ทรงยินดีพระนิพพาน
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร? เรากล่าวว่า
เพราะทรงทราบว่า ความเพลิดเพลินเป็นมูลแห่งทุกข์ เพราะ ภพจึงมีชาติ สัตว์ผู้เกิดแล้ว ต้องแก่ ต้องตาย เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุทั้งหลาย เราจึงกล่าวว่า
พระตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะสิ้นตัณหา สำรอกตัณหา ดับตัณหา สละตัณหา สละคืนตัณหาเสียได้ โดยประการทั้งปวง.
กำหนดภูมินัยที่ ๘ ด้วยสามารถพระศาสดา. พระผู้มีพระภาคได้ตรัสมูลปริยายนี้จบแล้ว ภิกษุเหล่านั้นมีความพอใจชื่นชมภาษิตของ พระผู้มีพระภาค ฉะนี้แล. จบ
----
พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น มูลปริยายวรรค ๑. มูลปริยายสูตร ว่าด้วยมูลเหตุแห่งธรรมทั้งปวง
-----------
link ; พระสูตรเต็มๆ อสังขตะ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1553587994872738&set=a.1410079375890268.1073741828.100006646566764&type=1&permPage=1
--
#พ่านเร็วกว่ากระพริบตามาแล้ว
link ; พระสูตรเต็มๆ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1564524327112438&set=a.1410079375890268.1073741828.100006646566764&type=1&permPage=1
--
#พ่านโพชฌงค์ ๗ มาแล้ว (องค์ตรัสรู้ธรรม)
ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์
อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ
อาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อความปลดปล่อย
ย่อมเจริญธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ ...
ย่อมเจริญวิริยสัมโพชฌงค์ ...
ย่อมเจริญปีติสัมโพชฌงค์ ...
ย่อมเจริญปัสสัทธิ สัมโพชฌงค์ ...
ย่อมเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์ ...
ย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์
อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ
อันน้อมไปเพื่อความปลดปล่อย ฯ
--
link ; พระสูตรเต็มๆ
http://buddhawajana252.blogspot.com/…/…/mobile20140225c.html
--
https://www.facebook.com/fata.chalee/posts/1710068005891402

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น