วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
พุทธวจน สัญญาเวทยิตนิโรธ..ไม่เป็นทั้ง..วิญญาณฐิติ.และ สัตตาวาส ๙ ที่อยู่ของสัตว์
#สัญญาเวทยิตนิโรธ..ไม่เป็นทั้ง..วิญญาณฐิติ.และ สัตตาวาส ๙ ที่อยู่ของสัตว์
(สัญญาเวทยิตนิโรธ ไม่มีที่เกิด..สัญญาเวทยิตนิโรธ เป็น อายตนะ แต่ไม่ได้เป็นภพ)
link;; พระอาจารย์แสดงธรรม ประมาณนาทีที่ 45.32
https://www.youtube.com/watch?v=mV8fAtsUSqA
--
#วิญญาณฐิติ ๗ (และ) อายตนะ ๒
ดูกรอานนท์
วิญญาณฐิติ ๗ (และ) อายตนะ ๒ เหล่านี้
วิญญาณฐิติ ๗ เป็นไฉน ?
คือ
๑. สัตว์มีกายต่างกัน มีสัญญาต่างกัน
ได้แก่พวกมนุษย์ และพวกเทพบางพวก
พวกวินิบาตบางพวก นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๑
๒. สัตว์มีกายต่างกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน
ได้แก่พวกเทพผู้นับเนื่องในชั้นพรหม
ผู้บังเกิดด้วยปฐมฌาน
และสัตว์ผู้เกิดในอบาย ๔
นี้เป็นวิญญาณ ฐิติที่ ๒
๓. สัตว์มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาต่างกัน
ได้แก่พวกเทพชั้นอาภัสสร
นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๓
๔. สัตว์ที่มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน
ได้แก่พวกเทพ ชั้นสุภกิณหะ
นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๔
๕. สัตว์ที่เข้าถึงชั้น อากาสานัญจายตนะ
ด้วยมนสิการว่า "อากาศหาที่สุดมิได้"
เพราะล่วงรูปสัญญา เพราะดับปฏิฆะสัญญา
เพราะไม่ใส่ใจถึง นานัตตสัญญา โดยประการทั้งปวง
นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๕
๖. สัตว์ที่เข้าถึงชั้นวิญญาณัญจายตนะ
ด้วยมนสิการว่า "วิญญาณหาที่สุดมิได้"
เพราะล่วงชั้น อากาสานัญจายตนะ โดยประการทั้งปวง
นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๖
๗. สัตว์ที่เข้าถึงชั้น อากิญจัญญายตนะ
ด้วยมนสิการว่า "ไม่มีอะไร"
เพราะล่วงชั้น วิญญาณัญจายตนะ โดยประการทั้งปวง
นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๗
ส่วนอายตนะอีก ๒
คือ อสัญญีสัตตายตนะ
และข้อที่ ๒ คือ เนวสัญญานาสัญญายตนะ
(อายตนะอีก 2 ไม่ทรงรวมอยู่ในวิญญาณฐิติ 7)
ดูกรอานนท์
บรรดาวิญญาณฐิติทั้ง ๗ ประการนั้น
วิญญาณฐิติข้อที่ ๑
มีว่าสัตว์มีกายต่างกัน มีสัญญาต่างกัน
ได้แก่พวกมนุษย์และพวกเทพบางพวก
พวกวินิบาตบางพวก
ผู้ที่รู้ชัดวิญญาณฐิติข้อนั้น
รู้ความเกิดและความดับ
รู้คุณและโทษ แห่งวิญญาณฐิติข้อนั้น
และรู้อุบายเป็นเครื่องออกไปจากวิญญาณฐิติข้อนั้น
เขายังจะควรเพื่อเพลิดเพลินวิญญาณฐิตินั้นอีกหรือ ฯ
อ.ไม่ควร พระเจ้าข้า ฯ
ฯลฯ (ในวิญญาณฐิติข้ออื่นๆ
ทรงตรัสถามนัยเดียวกันจนครบ 7 ข้อ)
อ.ไม่ควร พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรอานนท์ ส่วนบรรดาอายตนะทั้ง ๒ นั้นเล่า
ข้อที่ ๑ คือ อสัญญีสัตตายตนะ
ผู้ที่รู้ชัดอสัญญีสัตตายตนะข้อนั้น
รู้ความเกิดและความดับ
รู้คุณและโทษแห่งอสัญญีสัตตายตนะข้อนั้น
และรู้อุบายเป็นเครื่องออกไปจากอสัญญีสัตตายตนะข้อนั้น
เขายังจะควรเพื่อเพลิดเพลินอสัญญีสัตตายตนะนั้นอีกหรือ ฯ
อ.ไม่ควร พระเจ้าข้า ฯ
พ. ส่วนข้อที่ ๒ คือ เนวสัญญานาสัญญายตนะ
ผู้ที่รู้ชัด เนวสัญญานาสัญญายตนะ ข้อนั้น
รู้ความเกิดและความดับ
รู้คุณและโทษแห่งเนวสัญญานาสัญญายตนะข้อนั้น
และรู้อุบายเป็นเครื่องออก
ไปจากเนวสัญญานาสัญญายตนะข้อนั้น
เขายังจะควร
เพื่อเพลิดเพลินเนวสัญญานาสัญญายตนะข้อนั้นอีกหรือ ฯ
อ. ไม่ควร พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรอานนท์
เพราะภิกษุมาทราบชัดความเกิดและความดับ
ทั้งคุณและโทษ
และอุบายเป็นเครื่องออกไปจากวิญญาณฐิติ ๗
และอายตนะ ๒ เหล่านี้
ตามเป็นจริงแล้ว
ย่อมเป็นผู้หลุดพ้นได้เพราะไม่ยึดมั่น
อานนท์
ภิกษุนี้เราเรียกว่า ปัญญาวิมุตติ
*************************
บางส่วนจาก "มหานิทานสูตร"
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๐
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
หน้าที่ ๕๐ ข้อที่ ๕๗
----
http://etipitaka.com/read/thai/10/50/?keywords=มหานิทานสูตร
---
#สัตตาวาส ๙ ที่อยู่ของสัตว์
ภิกษุทั้งหลาย ! สัตตาวาส ๙ มีอยู สัตตาวาส ๙ อยางไรเลา ?
ภิกษุทั้งหลาย ! สัตวพวกหนึ่ง (สตฺตา) มีกายตางกัน มีสัญญาตางกัน เหมือนมนุษยทั้งหลาย เทวดาบางพวก และวินิบาตบางพวก นี้เปนสัตตาวาสที่ ๑
สัตวพวกหนึ่ง มีกายตางกัน มีสัญญาอยางเดียวกัน เหมือนเทวดาผูนับเนื่องในหมูพรหม ผูเกิดในปฐมภูมิ (ปมานิพฺพตฺตา) นี้เปนสัตตาวาสที่ ๒
สัตวพวกหนึ่ง มีกายอยางเดียวกัน มีสัญญาตางกัน เหมือนพวกเทพอาภัสสระ นี้เปนสัตตาวาสที่ ๓
สัตวพวกหนึ่ง มีกายอยางเดียวกัน มีสัญญาอยางเดียวกัน เหมือนพวกเทพสุภกิณหะ นี้เปนสัตตาวาสที่ ๔
สัตวพวกหนึ่ง ไมมีสัญญา ไมเสวยเวทนา เหมือนพวกเทพผูเปนอสัญญีสัตวนี้เปนสัตตาวาสที่ ๕
สัตวพวก หนึ่ง เพราะกาวลวงเสียได ซึ่งรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง เพราะความดับไปแหงปฏิฆสัญญา เพราะไมใสใจนานัตตสัญญา จึงเขาถึงอากาสานัญจายตนะ มีการทําในใจวา “อากาศไมมีที่สิ้นสุด” ดังนี้ นี้เปนสัตตาวาส ที่ ๖
สัตวพวกหนึ่ง เพราะกาวลวงเสียได ซึ่งอากาสานัญจายตนะ โดยประการทั้งปวง จึงเขาถึงวิญญาณัญจายตนะ มีการทําในใจวา “วิญญาณไมมีที่สุด” ดังนี้ นี้เปนสัตตาวาสที่ ๗
สัตวพวกหนึ่ง เพราะกาวลวงเสียได ซึ่งวิญญาณัญจายตนะโดยประการทั้งปวง จึงเขาถึงอากิญจัญญายตนะ มีการทําในใจวา “อะไรๆ ก็ไมมี” ดังนี้ นี้เปนสัตตาวาสที่ ๘
สัตวพวก หนึ่ง เพราะกาวลวงเสียได ซึ่งอากิญจัญญายตนะโดยประการทั้งปวง จึงเขาถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ ดังนี้ นี้เปนสัตตาวาสที่ ๙.
ภิกษุทั้งหลาย ! นี้แล สัตตาวาส ๙.
พุทธวจน ภพภูมิ หน้า ๒๙.
(ภาษาไทย) สตฺตก. อํ. ๒๓/๓๒๓/๒๒๘
--
*******
๖. นิโรธสูตร
[๑๖๖] ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรได้เรียกภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นรับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวว่า
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ผู้ถึงพร้อมด้วยศีล ถึงพร้อมด้วยสมาธิถึงพร้อมด้วยปัญญา
.............พึงเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง
.............พึงออกจากสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง
ข้อนั้นเป็นฐานะที่จะมีได้
.............ถ้าเธอไม่พึงบรรลุอรหัตผลในปัจจุบันไซร้
.............เธอก็ก้าวล่วงความเป็นสหายเหล่าเทพผู้มีกวฬิงการาหารเป็นภักษา
.............เข้าถึงเหล่าเทพผู้มีฤทธิ์ทางใจบางเหล่า
พึงเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง
พึงออกจากสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง
ข้อนั้นเป็นฐานะที่จะมีได้
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๒
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
เสริมว่า พระสูตรนี้ เมื่อพระสารีบุตร กล่าวจบ พระอุทายี คัดค้าน ถึง ๓ ครั้ง
แล้วเหล่าภิกษุทั้งหลายเข้าไปพบพระผู้มีพระภาค เล่าเนื้อความทั้งหมด พระผู้พระภาค ไม่ตรัสแก้ไข แต่ตรัสตำหนิเหล่าภิกษุ ที่คัดง้างคำของพระสารีบุตร นั้นย่อมแสดงว่า พระองค์รับรองคำของพระสารีบุตร
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น