วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พุทธวจน มายา (ธรรม)เครื่องกลับใจ.ศีล ๕ สี่ข้อแรกจัดเป็นอกุศล.สำหรับใช้วัดสอบกาลามสูตร

มายา (ธรรม)เครื่องกลับใจ.ศีล ๕ สี่ข้อแรกจัดเป็นอกุศล.สำหรับใช้วัดสอบกาลามสูตร: 
***********
#ธรรมเครื่องกลับใจ
**กาลามสูตร***
บทสรุปท้ายพระสูตร
-(ทำไปแล้วกุศลเจริญหรืออกุศลเจริญ โดยการใช้ศีล๕ สี่ข้อแรกเป็นเกน)
ศีล๕ ..๔ ข้อแรก จัดเป็นอกุศล..สำหรับใช้วัดสอบ.กาลามสูตร
---
[๑๙๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลาป่ามหาวัน 
ใกล้เมืองเวสาลี ครั้งนั้นแล ภัททิยลิจฉวี
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ 
ถวายอภิวาทแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง 
ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า 
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับมาดังนี้ว่า 
-
พระสมณโคดมทรงมีมายา 
ย่อมทรงรู้มายาเครื่องกลับใจ
สาวกของพวกอัญญเดียรถีย์ให้มานับถือ 
พวกเขาเหล่านั้นพากันกล่าวอย่างนี้ว่า 
พระสมณโคดมทรงมีมายา 
ย่อมทรงรู้มายาเครื่องกลับใจ
สาวกของพวกอัญญเดียรถีย์ให้มานับถือ 
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ 
คนเหล่านั้นเป็นอันกล่าวตามที่พระผู้มีพระภาคตรัสแลหรือ 
ไม่ได้กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคด้วยคำไม่เป็นจริง 
ย่อมพยากรณ์ธรรมสมควรแก่ธรรม 
และการคล้อยตาม วาทะอันชอบแก่เหตุไรๆ 
ย่อมไม่มาถึงฐานะอันควรติเตียนแลหรือแท้จริง 
ข้าพระองค์ไม่ประสงค์จะกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเลย 
-
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภัททิยะ 
ท่านจงมาเถิด ท่านทั้งหลาย
-
อย่าได้ถือโดยฟังตามกันมา 
อย่าได้ถือโดยสืบต่อกันมา 
อย่าได้ถือโดยตื่นข่าว 
อย่าได้ถือโดยอ้างตำรา 
อย่าได้ถือโดยนึกเดาเอาเอง 
อย่าได้ถือโดยคาดคะเน
อย่าได้ถือโดยตรึกตามอาการ 
อย่าได้ถือโดยชอบใจว่าถูกกับลัทธิของตน 
อย่าได้ถือโดยเห็นว่าผู้พูดเป็นคนควรเชื่อได้ 
อย่าได้ถือโดยเชื่อ ว่าสมณะเป็นครูของเรา 
-
ดูกรภัททิยะ เมื่อใด 
ท่านพึงรู้ได้ด้วยตนเองว่า 
ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล 
ธรรมเหล่านี้มีโทษ 
ธรรมเหล่า นี้อันวิญญูชนติเตียน 
ธรรมเหล่านี้อันบุคคลสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว 
ย่อมเป็นไป เพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล 
เพื่อทุกข์ 
-
เมื่อนั้น
ท่านทั้งหลายพึงละเสียเถิด 
-
ดูกรภัททิยะ ท่านจะพึงสำคัญความความข้อนั้นเป็นไฉน 
-
ความโลภเมื่อเกิดขึ้นภายในบุคคล 
ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อมิใช่ประโยชน์ ฯ
ภัท. เพื่อมิใช่ประโยชน์ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ ก็บุคคลผู้โลภมาก 
ถูกความโลภครอบงำย่ำยีจิต 
-
ย่อมฆ่าสัตว์ก็ได้
ลักทรัพย์ก็ได้ 
คบชู้ก็ได้ 
พูดเท็จก็ได้ 
-
ย่อมชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้นก็ได้ 
ข้อนี้ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์ 
เพื่อทุกข์ตลอดกาลนานหรือ ฯ
ภัท. อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน 
โทสะ ... โมหะ ...การแข่งดี 
เมื่อเกิดขึ้นในภายในของบุรุษ 
ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อมิใช่ประโยชน์ ฯ
ภัท. เพื่อมิใช่ประโยชน์ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ 
บุคคลผู้แข่งดี ถูกความแข่งดีครอบงำย่ำยีจิต 
-
ย่อมฆ่าสัตว์ก็ได้
ลักทรัพย์ก็ได้ 
คบชู้ก็ได้ 
พูดเท็จก็ได้ 
-
ชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้นก็ได้ 
ข้อนี้ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์ 
เพื่อทุกข์ตลอดกาลนานหรือ ฯ
ภัท. อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน 
ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล หรือเป็นอกุศล ฯ
ภัท. เป็นอกุศล พระเจ้าข้า ฯ
พ. มีโทษหรือไม่มีโทษ
ภัท. มีโทษ พระเจ้าข้า ฯ
พ. วิญญูชนติเตียนหรือวิญญูชนสรรเสริญ ฯ
ภัท. วิญญูชนติเตียน พระเจ้าข้า ฯ
พ. บุคคลสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว 
เป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์ เพื่อทุกข์ 
หรือมิใช่หรือว่าท่านมีความเห็นอย่างไรในข้อนี้ ฯ
-
ภัท. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ 
ธรรมเหล่านี้บุคคลสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว 
ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์ เพื่อทุกข์ 
ข้าพระองค์มีความเห็นอย่างนี้ในข้อนี้พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ เราได้กล่าวคำใดกะท่านว่า ท่านทั้งหลาย
-
อย่าถือโดยฟังตามกันมา...เมื่อใด 
-
ท่านพึงรู้ได้ด้วยตนเองว่าธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล...
ท่านทั้งหลายควรละเสียเถิด ดังนี้ 
-
คำนั้น
เรากล่าวเพราะอาศัยข้อนี้ 
ดูกรภัททิยะ ท่านทั้งหลาย
-
อย่าได้ถือโดยฟังตามกันมา...เมื่อใด 
-
ท่านทั้งหลายพึงรู้ได้ด้วยตนเอง
ว่าธรรมเหล่านี้เป็นกุศลธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ 
ธรรมเหล่านี้วิญญูชนสรรเสริญ 
ธรรมเหล่านี้บุคคลสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อสุข 
เมื่อนั้น
ท่านทั้งหลายพึงเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่เถิด 
-
ดูกรภัททิยะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน 
ความไม่โลภเมื่อเกิดขึ้นในภายในของบุรุษ 
ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อมิใช่ประโยชน์ ฯ
ภัท. เพื่อประโยชน์ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ 
ก็บุคคลผู้ไม่โลภนี้ 
ไม่ถูกความโลภครอบงำย่ำยีจิต 
-
ย่อมไม่ฆ่าสัตว์
ไม่ลักทรัพย์ 
ไม่คบชู้ 
ไม่พูดเท็จ 
-
และชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้น 
ข้อนี้ย่อมเป็นไปเพื่อ
ประโยชน์เกื้อกูล 
เพื่อสุขตลอดกาลนานหรือ ฯ
ภัท. อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน 
ความไม่โกรธ...ความไม่หลง...ความไม่แข่งดี 
เกิดขึ้นในภายในของบุรุษ 
ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์เกื้อกูล 
หรือเพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล ฯ
ภัท. เพื่อประโยชน์เกื้อกูล พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ ก็บุคคลผู้ไม่แข่งดีนี้ 
ไม่ถูกความแข่งดีครอบงำย่ำยีจิต
-
ย่อมไม่ฆ่าสัตว์
ไม่ลักทรัพย์ 
ไม่คบชู้ 
ไม่พูดเท็จ

และชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้น 
ข้อนี้ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล 
เพื่อสุขตลอดกาลนานหรือ ฯ
-
ภัท. อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน 
ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล หรือเป็นอกุศล ฯ
ภัท. เป็นกุศล พระเจ้าข้า ฯ
พ. มีโทษหรือหาโทษมิได้ ฯ
ภัท. หาโทษมิได้ พระเจ้าข้า ฯ
พ. วิญญูชนติเตียนหรือสรรเสริญ ฯ
ภัท. วิญญูชนสรรเสริญ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ธรรมเหล่านี้อันบุคคลสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว 
ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
เพื่อสุขหรือมิใช่ หรือท่านมีความเห็นอย่างไรในข้อนี้ ฯ

ภัท. ธรรมเหล่านี้อันบุคคลสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว 
ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุข 
ข้าพระองค์มีความเห็นอย่างนี้ในข้อนี้ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ เราได้กล่าวคำใดกะท่านว่า 
ท่านทั้งหลายจงมาเถิด ท่านทั้งหลาย
-
อย่าได้ถือฟังตามกันมา...
-
ท่านทั้งหลายพึงเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่เถิดดังนี้ 
คำนั้นเรากล่าวแล้วเพราะอาศัยข้อนี้ 
ดูกรภัททิยะ คนเหล่าใดเป็นคนสงบ 
เป็นสัตบุรุษคนเหล่านั้นย่อมชักชวนสาวกอย่างนี้
ว่า บุรุษผู้เจริญ ท่านจงมา จงปราบปรามความโลภเสียเถิด 
เมื่อปราบปรามความโลภได้ 
จักไม่กระทำกรรมอันเกิดแต่ความโลภด้วยกายวาจาใจ 
จงปราบปรามความโกรธเสียเถิด 
เมื่อท่านปราบปรามความโกรธได้ 
จักไม่กระทำกรรมอันเกิดแต่ความโกรธด้วยกาย วาจา ใจ 
จงปราบปรามความหลงเสียเถิด 
เมื่อปราบปรามความหลงได้ 
จักไม่กระทำกรรมอันเกิดแต่ความหลงด้วยกาย วาจา ใจ
จงปราบปรามความแข่งดีเสียเถิด 
เมื่อปราบปรามความแข่งดีได้ 
จักไม่กระทำกรรมอันเกิดแต่ความแข่งดีด้วยกาย วาจา ใจ ฯ
-
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว 
ภัททิยลิจฉวีได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า 
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ 
ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ฯลฯ 
ขอพระผู้มีพระภาคโปรดทรงจำข้าพระองค์ว่า
เป็นอุบาสก ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฯ

พ. ดูกรภัททิยะ ก็เราได้กล่าวชักชวนท่านอย่างนี้ว่า 
ดูกรภัททิยะ ขอท่านจงมาเป็นสาวกของเราเถิด 
เราจักเป็นศาสดาของท่าน ดังนี้หรือ ฯ
ภัท. มิใช่เช่นนั้น พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ 
สมณพราหมณ์พวกหนึ่งกล่าวตู่เราผู้มีปรกติกล่าวอย่างนี้ 
มีปรกติบอกอย่างนี้ 
ด้วยคำอันไม่แน่นอน เป็นคำเปล่า คำเท็จ คำไม่จริง 
ว่าพระสมณโคดมมีมายา รู้จักมายา
เครื่องกลับใจสาวกของพวกอัญญเดียรถีย์ให้มานับถือ ฯ
-
ภัท. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ 
มายาเครื่องกลับใจนี้ดีนัก งามนัก 
ถ้าญาติสาโลหิตอันเป็นที่รักของข้าพระองค์ 
พึงกลับใจมาด้วยมายาเป็นเครื่องกลับใจชนิดนี้ 
ข้อนั้นจะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล 
เพื่อสุข แก่บรรดาญาติสาโลหิตอันเป็นที่รักของข้าพระองค์ 
ตลอดกาลนาน 
ถ้าแม้กษัตริย์ทั้งปวงจะพึงกลับใจ
มาด้วยมายาเป็นเครื่องกลับใจชนิดนี้ 
ข้อนั้นก็จะพึงเป็นไปเพื่อเกื้อกูล
เพื่อสุขแก่กษัตริย์ทั้งปวงตลอดกาลนาน 
ถ้าพราหมณ์ทั้งปวง...แพศย์...ศูทร์ทั้งปวง
จะพึงกลับใจมาด้วยมายาเป็นเครื่องกลับใจชนิดนี้ 
ข้อนั้นก็จะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลเพื่อสุข 
แก่ศูทร์แม้ทั้งปวงตลอดกาลนาน ฯ
ดูกรภัททิยะ คำที่ท่านกล่าวนี้เป็นอย่างนั้นๆ 
ถ้าแม้กษัตริย์ทั้งปวงพึงทรงกลับใจ
-
มาเพื่อละอกุศลธรรม บำเพ็ญกุศลธรรม 
ข้อนั้นก็จะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล 
เพื่อสุข แก่กษัตริย์ทั้งปวงตลอดกาลนาน 
ถ้าแม้พราหมณ์...แพศย์...ศูทร์พึงกลับใจมาเพื่อละอกุศลธรรม 
บำเพ็ญกุศลธรรม ข้อนั้นก็พึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุข 
แก่ศูทร์ทั้งปวงตลอดกาลนาน ถ้าแม้โลก
พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก 
หมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ 
พึงกลับใจมาเพื่อละอกุศลธรรม บำเพ็ญกุศลธรรม 
ข้อนั้นก็พึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุข
แก่โลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก 
แก่หมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ 
เทวดาและมนุษย์
ตลอดกาลนาน 
-
ดูกรภัททิยะถ้าแม้พวกมหาศาลเหล่านี้ 
จะพึงกลับใจมาด้วยมายาเครื่องกลับใจนี้
เพื่อละอกุศลธรรม บำเพ็ญกุศลธรรม 
ข้อนั้นก็จะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล 
เพื่อสุข แก่พวกมหาศาลเหล่านี้ตลอดกาลนาน 
ถ้ามหาศาลเหล่านี้พึงตั้งใจ 
จะป่วยกล่าวไปไยถึงผู้ที่เป็นมนุษย์เล่า ฯ
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๑
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
หน้าที่ ๑๘๒ ข้อที่ ๑๙๓
-
http://etipitaka.com/read/thai/21/182/
-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น