วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

สถานที่อันเป็นทิพย์ สถานที่ใดก็ตามที่บุคคลเข้าฌาน 1,2,3,4 ได้ สถานที่นั้นเป็นสถานที่อันเป็นทิพย์



สถานที่อันเป็นทิพย์
สถานที่ใดก็ตามที่บุคคลเข้าฌาน 1,2,3,4 ได้ สถานที่นั้นเป็นสถานที่อันเป็นทิพย์
ประมาณนาทีที่ 4.14 https://www.youtube.com/watch?v=NU706mky1NI&feature=share
ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ ๓ ชนิด 
เหล่าไหน คือ 
ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ที่เป็นของทิพย์ ๑ 
ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ที่เป็นของพรหม ๑ 
ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ที่เป็นของพระอริยเจ้า ๑
...............................................................................................
ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ที่เป็นของทิพย์ ๑ 
..................
วัจฉ. ข้าแต่ท่านพระโคดมผู้เจริญ 
ก็ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ที่เป็นของทิพย์ 
ซึ่งทุกวันนี้ท่านพระโคดมได้ตามความปรารถนา 
ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก เป็นไฉน ฯ
-
พ. ดูกรพราหมณ์ เราอาศัยบ้านหรือนิคมแห่งใดในโลกนี้อยู่ 
เวลาเช้าเรานุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร 
เข้าไปบิณฑบาตยังบ้านหรือนิคมแห่งนั้นแหละ
เวลาหลังอาหารกลับจากบิณฑบาตแล้ว 
เข้าไปยังชายป่า กวาดหญ้าหรือใบไม้ซึ่ง มีอยู่ ณ ที่นั้นเป็นกองแล้ว 
นั่งคู่บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า
เราสงัดจากกาม 
สงัดจากอกุศลธรรม 
เข้าปฐมฌาน มีวิตก วิจาร มีปีติ 
และสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ 
-
เข้าทุติยฌาน 
มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน 
เป็นธรรมเอกผุดขึ้น
ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร 
เพราะวิตกวิจาร สงบไป 
มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่ 
มีอุเบกขา 
มีสติสัมปชัญญะ 
เสวยสุขด้วยนามกาย

เพราะปีติสิ้นไป เข้าตติยฌาน
ที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ 
เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข

เข้าจตุตถฌาน 
ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข 
เพราะละสุขละทุกข์และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ 
มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ 
-
ดูกรพราหมณ์ 
ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้
เดินจงกรมอยู่ 
ที่เดินจงกรมในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าเป็นทิพย์ 
ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้ยืนอยู่ 
ที่ยืนในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าเป็นทิพย์
ถ้าเรา ผู้เป็นเช่นนี้นั่งอยู่ 
ที่นั่งในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าเป็นทิพย์ 
ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้นอน อยู่ 
ที่นอนอันสูงใหญ่ในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าเป็นทิพย์ 
-
ดูกรพราหมณ์ ที่นั่ง ที่นอน อันสูงใหญ่อันเป็นของทิพย์นี้แล 
ทุกวันนี้ เราได้ตามความปรารถนา
ได้โดย ไม่ยาก ไม่ลำบาก ฯ
.............................................................................
ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ที่เป็นของพรหม ๑
......................
วัจฉะ ส่วนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ที่เป็นของพรหม 
ซึ่งทุกวันนี้ท่านพระโคดมได้ตามความปรารถนา 
ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก เป็นไฉน ฯ
-
พ. ดูกรพราหมณ์ 
เราอาศัยบ้านหรือนิคมแห่งใดในโลกนี้อยู่ 
เวลาเช้าเรานุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร 
เข้าไปบิณฑบาตยังบ้านหรือนิคมแห่งนั้นแหละ
เวลาหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว 
เข้าไปยังชายป่า กวาดหญ้าหรือใบไม้ซึ่งมีอยู่ ณ ที่นั้น
เข้าเป็นกองแล้ว นั่งคู้บัลลังก์ 
ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า 
-
มีใจประกอบด้วย....เมตตา....
แผ่ไปตลอดทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่ ๒
ทิศที่ ๓ ทิศที่ ๔ ก็เหมือนกัน ตามนัยนี้ 
ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง 
แผ่ไปตลอดโลก ทั่วสัตว์ทุกเหล่า 
ในที่ทุกสถาน ด้วยใจอันประกอบด้วยเมตตาอันไพบูลย์ 
ถึงความเป็นใหญ่ หาประมาณมิได้ 
ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่ 
-
มีใจประกอบด้วย....กรุณา ... 
มีใจประกอบด้วย....มุทิตา ... 
มีใจประกอบด้วย....อุเบกขา... 
แผ่ไปตลอดทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่ ๒ ทิศที่ ๓ ทิศที่ ๔ ก็เหมือนกัน ตามนัยนี้ 
ทั้งเบื้องบนเบื้องล่าง เบื้องขวาง 
แผ่ไปตลอดโลก ทั่วสัตว์ทุกเหล่า ในที่ทุกสถาน 
ด้วยใจอันประกอบด้วย ......อุเบกขา....อันไพบูลย์ 
ถึงความเป็นใหญ่ หาประมาณมิได้ 
ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่ 
-
ดูกรพราหมณ์ 
ถ้าเรานั้นเป็นผู้เช่นนี้เดินจงกรมอยู่ 
ที่เดินจงกรมในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่า......เป็นของพรหม... 
ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้
ยืนอยู่ ... นั่งอยู่ ... นอนอยู่ ที่นอน 
อันสูงใหญ่ในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่า....เป็นของพรหม.... 
-
ดูกรพราหมณ์ ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ที่เป็นของพรหมนี้แล 
ทุกวันนี้เราได้ตามความปรารถนา 
ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ฯ
.....................................
ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ที่เป็นของพระอริยเจ้า ๑
...................
วัจฉ. .... ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ 
ส่วนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ที่เป็นของพระอริยเจ้า
ซึ่งทุกวันนี้ ท่านพระโคดมได้ตามความปรารถนา 
ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก
เป็นไฉน ฯ
พ. ดูกรพราหมณ์ เราอาศัยบ้านหรือนิคมแห่งใดในโลกนี้อยู่ 
เวลาเช้านุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร 
เข้าไปบิณฑบาตยังบ้านหรือนิคมแห่งนั้นแหละ 
เวลาหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว 
เข้าไปยังชายป่า กวาดหญ้าหรือใบไม้ซึ่งมีอยู่ ณ ที่นั้น 
รวมเข้าเป็นกองแล้ว นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง 
ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า เรารู้ชัดอย่างนี้ว่า 
-
ราคะเราละได้ขาดแล้ว ถอนรากขึ้นแล้ว 
ทำให้เป็นเหมือน ตาลยอดด้วน 
ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา 
-
โทสะ ... โมหะ เราละได้ขาดแล้ว ถอนรากขึ้นแล้ว 
ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน 
ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา 
-
ดูกรพราหมณ์ 
ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้
เดินจงกรมอยู่
ที่เดินจงกรมในสมัยนั้น ของเรา ชื่อว่า....เป็นของพระอริยะ... 
ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้ยืนอยู่
นั่งอยู่ ... นอนอยู่ ที่นอนอันสูงใหญ่นั้น 
สมัยนั้นของเรา ชื่อว่า...เป็นของพระอริยะ... 
-
ดูกรพราหมณ์ 
ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ที่เป็นของพระอริยเจ้านี้แล 
ทุกวันนี้เราได้ตามความปรารถนา 
ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ฯ
http://etipitaka.com/read…#

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น