วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

พุทธวจน faq พระอรหันต์แตกต่างกับพระพุทธเจ้าอย่างไร



#พระอรหันต์แตกต่างจากพระพุทธเจ้าอย่างไร #แม้ว่าจะไปเสมอกันที่วิมุตติก็ตาม

ภิกษุท.! ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะหลุดพ้นแล้วจากรูป

เพราะความเบื่อหน่ายความคลายกำหนัดความดับและความไม่ยึดมั่นจึงได้

นามว่า "สัมมาสัมพุทธะ".

ภิกษุท.! แม้ภิกษุผู้ปัญญาวิมุตต์ก็หลุดพ้นแล้ว

จากรูปเพราะความเบื่อหน่ายความคลายกำหนัดความดับและความไม่ยึด

มั่นจึงได้นามว่า "ปัญญาวิมุตต์".


(ในกรณีแห่งเวทนาสัญญาสังขารและวิญญาณก็ได้ตรัสไว้มีข้อความ

แสดงหลักเกณฑ์อย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งรูปที่กล่าวแล้ว).



ภิกษุท.! เมื่อเป็นผู้หลุดพ้นจากรูปเป็นต้นด้วยกันทั้งสองพวกแล้ว

อะไรเป็นความผิดแผกแตกต่างกันอะไรเป็นความมุ่งหมายที่แตกต่างกันอะไร

เป็นเครื่องกระทำให้แตกต่างกันระหว่างตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะกับ

ภิกษุผู้ปัญญาวิมุตต์ ?




ภิกษุท.! ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ ได้ทำมรรคที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้นได้ทำมรรคที่ยังไม่มีใครรู้ให้มีคนรู้ได้

ทำมรรคที่ยังไม่มีใครกล่าวให้ เป็นมรรคที่กล่าวกันแล้ว ตถาคตเป็นมัคคัญญู (รู้มรรค) เป็นมัคควิทู (รู้แจ้งมรรค)

เป็นมัคคโกวิโท (ฉลาดในมมรค). ภิกษุท.! ส่วนสาวกทั้งหลายในกาลนี้เป็นมัคคานุคา (ผู้เดินตามมรรค)

เป็นผู้ตามมาในภายหลัง.


ภิกษุท.! นี้แลเป็นความผิดแผกแตกต่างกันเป็นความมุ่งหมาย ที่แตกต่างกันเป็นเครื่องกระทำให้แตกต่างกัน

ระหว่างตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะกับภิกษุผู้ปัญญาวิมุตต์.




(ไทย)ขนฺธ. สํ. ๑๗/๖๓/๑๒๕

---
ดูกรภิกษุทั้งหลายมหาโจร๕จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก

มหาโจร ๕ จำพวกเป็นไฉน

๑. ดูกรภิกษุทั้งหลายมหาโจรบางคนในโลกนี้ย่อมปรารถนาอย่างนี้ว่าเมื่อไรหนอ

เราจักเป็นผู้อันบุรุษร้อยหนึ่งหรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้วท่องเที่ยวไปในคามนิคมและราชธานี

เบียดเบียนเองให้ผู้อื่นเบียดเบียนตัดเองให้ผู้อื่นตัดเผาผลาญเองให้ผู้อื่นเผาผลาญ

สมัยต่อมาเขาเป็นผู้อันบุรุษร้อยหนึ่งหรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้วเที่ยวไปในคามนิคมและ

ราชธานีเบียดเบียนเองให้ผู้อื่นเบียดเบียนตัดเองให้ผู้อื่นตัดเผาผลาญเองให้ผู้อื่น

เผาผลาญฉันใดดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล

ย่อมปรารถนาอย่างนี้ว่าเมื่อไรหนอเราจึงจักเป็นผู้อันภิกษุร้อยหนึ่งหรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้ว

เที่ยวจาริกไปในคามนิคมและราชธานีอันคฤหัสถ์และบรรพชิตสักการะเคารพนับถือบูชา

ยำเกรงได้จีวรบิณฑบาตเสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขารสมัยต่อมาเธอเป็นผู้

อันภิกษุร้อยหนึ่งหรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้วเที่ยวจาริกไปในคามนิคมและราชธานีอันคฤหัสถ์

และบรรพชิตสักการะเคารพนับถือบูชายำเกรงแล้วได้จีวรบิณฑบาตเสนาสนะ

และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารทั้งหลายดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เป็นมหาโจรจำพวกที่๑มีปรากฏอยู่

ในโลก

๒. ดูกรภิกษุทั้งหลายอีกข้อหนึ่งภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้เล่าเรียน

ธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้วย่อมยกตนขึ้นดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เป็นมหาโจรจำพวกที่๒

มีปรากฏอยู่ในโลก

๓. ดูกรภิกษุทั้งหลายอีกข้อหนึ่งภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ย่อมตามกำจัด

เพื่อนพรหมจารีผู้หมดจดผู้ประพฤติพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์อยู่ด้วยธรรมอันเป็นข้าศึกแก่

พรหมจรรย์อันหามูลมิได้ดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เป็นมหาโจรจำพวกที่๓มีปรากฏอยู่ในโลก

๔. ดูกรภิกษุทั้งหลายอีกข้อหนึ่งภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ย่อมสงเคราะห์

เกลี้ยกล่อมคฤหัสถ์ทั้งหลายด้วยครุภัณฑ์ครุบริขารของสงฆ์คืออารามพื้นที่อาราม

วิหารพื้นที่วิหารเตียงตั่งฟูกหมอนหม้อโลหะอ่างโลหะกระถางโลหะกระทะโลหะ

มีดขวานผึ่งจอบสว่านเถาวัลย์ไม้ไผ่หญ้ามุงกระต่ายหญ้าปล้องหญ้าสามัญดินเหนียว

เครื่องไม้เครื่องดินดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เป็นมหาโจรจำพวกที่๔มีปรากฏอยู่ในโลก

๕. ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุผู้กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมอันไม่มีอยู่อันไม่เป็นจริง

นี้จัดเป็นยอดมหาโจรในโลกพร้อมทั้งเทวโลกมารโลกพรหมโลกในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณะ

พราหมณ์เทวดาและมนุษย์ข้อนั้นเพราะเหตุไรเพราะภิกษุนั้นฉันก้อนข้าวของชาว

แว่นแคว้นด้วยอาการแห่งคนขโมย.


(ไทย) มหาวิ.วิ.๑/๓๓๒/๒๓๐:

https://www.youtube.com/watch?v=gfB1JVn3uns

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น