Get เลย..ทำไม..กรรมที่ไม่เจตนาไม่มี..เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม..
สิ่งๆ นั้น มี...เหมือน..ไม่มี.
(ธรรมธาตุนั้นย่อมตั้งอยู่แล้วนั้นเทียว คือ ความตั้งอยู่แห่งธรรมดา)
ความมี..ไม่มี วัดกันที่ว่า...วิญญาณไปตั้งอาศัยมั๊ย
การที่วิญญาณไปตั้งอาศัย..ก็คือ..กิริยาที่รู้แจ้ง..ไปรับรู้หรือไปตั้งอยู่นั้นเอง
--
วิญญาณ และนาม-รูปต่างอาศัยกันละกันเกิดขึ้น
ถ้าไม่มีนาม-รูป วิญญาณก็ดับ
-
ถ้าไม่มีวิญญาณ นาม-รูปก็ดับ
-
ดังอุปมาของพระสารีบุตร เหมือนไม้ 2 กำพิงกัน
อาศัยกันจึงตั้งอยู่ได้
หากดึงกำที่เป็นวิญญาณออก กำที่เป็น นาม-รูป ก็ล้ม
-
หากดึงกำที่เป็น นาม-รูป ออก กำที่เป็นวิญญาณก็ล้ม
-
อุปมาของพระศาสดา..
-
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนเรือนยอด หรือศาลาเรือนยอด ที่ตั้งอยู่
สิ่งๆ นั้น มี...เหมือน..ไม่มี.
(ธรรมธาตุนั้นย่อมตั้งอยู่แล้วนั้นเทียว คือ ความตั้งอยู่แห่งธรรมดา)
ความมี..ไม่มี วัดกันที่ว่า...วิญญาณไปตั้งอาศัยมั๊ย
การที่วิญญาณไปตั้งอาศัย..ก็คือ..กิริยาที่รู้แจ้ง..ไปรับรู้หรือไปตั้งอยู่นั้นเอง
--
วิญญาณ และนาม-รูปต่างอาศัยกันละกันเกิดขึ้น
ถ้าไม่มีนาม-รูป วิญญาณก็ดับ
-
ถ้าไม่มีวิญญาณ นาม-รูปก็ดับ
-
ดังอุปมาของพระสารีบุตร เหมือนไม้ 2 กำพิงกัน
อาศัยกันจึงตั้งอยู่ได้
หากดึงกำที่เป็นวิญญาณออก กำที่เป็น นาม-รูป ก็ล้ม
-
หากดึงกำที่เป็น นาม-รูป ออก กำที่เป็นวิญญาณก็ล้ม
-
อุปมาของพระศาสดา..
-
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนเรือนยอด หรือศาลาเรือนยอด ที่ตั้งอยู่
ทางทิศเหนือหรือใต้ก็ตาม เป็นเรือนมีหน้าต่างทางทิศตะวันออก.
ครั้นดวงอาทิตย์ขึ้นมา แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์
ส่งเข้าไปทางช่องหน้าต่างแล้ว
จักตั้งอยู่ที่ส่วนไหนแห่งเรือนนั่นเล่า ?
-
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์
จักปรากฏที่ฝาเรือนข้างในด้านทิศตะวันตก พระเจ้าข้า !”
ส่งเข้าไปทางช่องหน้าต่างแล้ว
จักตั้งอยู่ที่ส่วนไหนแห่งเรือนนั่นเล่า ?
-
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์
จักปรากฏที่ฝาเรือนข้างในด้านทิศตะวันตก พระเจ้าข้า !”
ภิกษุ ท. ! ถ้าฝาเรือนทางทิศตะวันตกไม่มีเล่า
แสงแห่งดวงอาทิตย์นั้น จักปรากฏอยู่ที่ไหน ?
แสงแห่งดวงอาทิตย์นั้น จักปรากฏอยู่ที่ไหน ?
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น
จักปรากฏที่พื้นดิน พระเจ้าข้า !”
จักปรากฏที่พื้นดิน พระเจ้าข้า !”
ภิกษุ ท. ! ถ้าพื้นดินไม่มีเล่า แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น
จักปรากฏที่ไหน ?
จักปรากฏที่ไหน ?
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น
จักปรากฏในน้ำ พระเจ้าข้า !”
จักปรากฏในน้ำ พระเจ้าข้า !”
ภิกษุ ท. ! ถ้าน้ำไม่มีเล่า แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น
จักปรากฏที่ไหนอีก?
จักปรากฏที่ไหนอีก?
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น
ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ปรากฏแล้ว
พระเจ้าข้า !”
--
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๖
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
หน้าที่ ๑๐๑ ข้อที่ ๒๔๘ - ๒๔๙
---
http://etipitaka.com/read/thai/16/101/…
----
(((จิต มโน วิญญาณ)))....กับ...(((สัตตานัง)))..https://www.youtube.com/watch?v=JL5bpRattt4
-
วิญญาณหลุดออกจาก 4 ธาตุ ก็ไม่สามารถปรุงแต่งรูปนามได้
#
เมื่อหลุดพ้นก็ตั้งมั่น..อะไรตั้งมั่น..(((สิ่งๆ หนึ่ง)))
---
ภิกษุทั้งหลาย !
ถ้าราคะในรูปธาตุ
ในเวทนาธาตุ
ในสัญญาธาตุ
ในสังขารธาตุ
ในวิญญาณธาตุ
เป็นสิ่งที่ ภิกษุละได้แล้ว;
-
เพราะละราคะได้
อารมณ์สำหรับวิญญาณก็ขาดลง
ที่ตั้งของวิญญาณก็ไม่มี,
-
วิญญาณอันไม่มีที่ตั้งนั้นก็ไม่งอกงาม
หลุดพ้นไปเพราะไม่ถูกปรุงแต่ง,
-
เพราะหลุดพ้นไปก็ตั้งมั่น,
เพราะตั้งมั่นก็ยินดีในตนเอง,
เพราะยินดีในตนเองก็ไม่หวั่นไหว,
เมื่อไม่หวั่นไหว
ก็ปรินิพพานเฉพาะตน.
-
ย่อมรู้ชัดว่า
“ชาตินี้สิ้นแล้ว
พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว,
กิจที่ควรทำ ได้ทำสำเร็จแล้ว,
กิจอื่นที่จะต้องทำ เพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีอีก” ดังนี้.
-
ตามรอยธรรม หน้า ๔๗
(ภาษาไทย) ขนฺธ. สํ. ๑๗/๕๓/๑๐๕
---
http://etipitaka.com/read/thai/17/53/
--
ประมาณนาทีที่ 15.30
(((จิต มโน วิญญาณ)))....กับ...(((สัตว์)))..
นวสูตร
......... กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา
วิญญาณชื่อว่าเป็นพืช
ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง
-
((วิญญาณ))...ประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างเลวของ..(((สัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ)))) .....
-
ด้วยประการฉะนี้
จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก............
-
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๐
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
หน้าที่ ๒๑๑ ข้อที่ ๕๑๖
---
http://etipitaka.com/read/thai/20/211/…
---
หมายเหตุ..ภาพ..ตก ฉันทะ (ความพอใจ) +
ราคะ (ความกําหนัด)+
นันทิ (ความเพลิน) +
ตัณหา (ความอยาก)
ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ปรากฏแล้ว
พระเจ้าข้า !”
--
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๖
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
หน้าที่ ๑๐๑ ข้อที่ ๒๔๘ - ๒๔๙
---
http://etipitaka.com/read/thai/16/101/…
----
(((จิต มโน วิญญาณ)))....กับ...(((สัตตานัง)))..https://www.youtube.com/watch?v=JL5bpRattt4
-
วิญญาณหลุดออกจาก 4 ธาตุ ก็ไม่สามารถปรุงแต่งรูปนามได้
#
เมื่อหลุดพ้นก็ตั้งมั่น..อะไรตั้งมั่น..(((สิ่งๆ หนึ่ง)))
---
ภิกษุทั้งหลาย !
ถ้าราคะในรูปธาตุ
ในเวทนาธาตุ
ในสัญญาธาตุ
ในสังขารธาตุ
ในวิญญาณธาตุ
เป็นสิ่งที่ ภิกษุละได้แล้ว;
-
เพราะละราคะได้
อารมณ์สำหรับวิญญาณก็ขาดลง
ที่ตั้งของวิญญาณก็ไม่มี,
-
วิญญาณอันไม่มีที่ตั้งนั้นก็ไม่งอกงาม
หลุดพ้นไปเพราะไม่ถูกปรุงแต่ง,
-
เพราะหลุดพ้นไปก็ตั้งมั่น,
เพราะตั้งมั่นก็ยินดีในตนเอง,
เพราะยินดีในตนเองก็ไม่หวั่นไหว,
เมื่อไม่หวั่นไหว
ก็ปรินิพพานเฉพาะตน.
-
ย่อมรู้ชัดว่า
“ชาตินี้สิ้นแล้ว
พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว,
กิจที่ควรทำ ได้ทำสำเร็จแล้ว,
กิจอื่นที่จะต้องทำ เพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีอีก” ดังนี้.
-
ตามรอยธรรม หน้า ๔๗
(ภาษาไทย) ขนฺธ. สํ. ๑๗/๕๓/๑๐๕
---
http://etipitaka.com/read/thai/17/53/
--
ประมาณนาทีที่ 15.30
(((จิต มโน วิญญาณ)))....กับ...(((สัตว์)))..
นวสูตร
......... กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา
วิญญาณชื่อว่าเป็นพืช
ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง
-
((วิญญาณ))...ประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างเลวของ..(((สัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ)))) .....
-
ด้วยประการฉะนี้
จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก............
-
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๐
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
หน้าที่ ๒๑๑ ข้อที่ ๕๑๖
---
http://etipitaka.com/read/thai/20/211/…
---
หมายเหตุ..ภาพ..ตก ฉันทะ (ความพอใจ) +
ราคะ (ความกําหนัด)+
นันทิ (ความเพลิน) +
ตัณหา (ความอยาก)
----
---
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น