วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

‪#‎โสดาบันจะมีกำลังในการไปฟังธรรม‬ อันบัณฑิตนำมาแสดงอยู่ ‪#‎เป็นการได้ลาภ‬



‪#‎โสดาบันจะมีกำลังในการไปฟังธรรม‬ 
อันบัณฑิตนำมาแสดงอยู่ ‪#‎เป็นการได้ลาภ‬
//
[๕๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง 
อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า 
บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
ประกอบด้วยพละเช่นใด
ถึงเราก็ประกอบด้วยพละเช่นนั้น.
--
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
ประกอบด้วยพละอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พละนี้ของบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
คือ อริยสาวกนั้น
เมื่อธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว
อันบัณฑิตแสดงอยู่
ทำให้มีประโยชน์ทำไว้ในใจ
กำหนดด้วยจิตทั้งปวง
เงี่ยโสตฟังธรรม.
อริยสาวกนั้นรู้ชัดอย่างนี้
ว่าบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
ประกอบด้วยพละเช่นใด
ถึงเราก็ประกอบด้วยพละเช่นนั้น.
นี้ญาณที่ ๖ เป็นอริยะ เป็นโลกุตระ
ไม่ทั่วไปกับพวกปุถุชน
อันอริยสาวกนั้นบรรลุแล้ว.
--
[๕๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง
อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็น ดังนี้ว่า
บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
ประกอบด้วยพละเช่นใด
ถึงเราก็ประกอบด้วยพละเช่นนั้น.
--
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
ประกอบด้วยพละอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พละนี้ของบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
คือ อริยสาวกนั้น เมื่อธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว
อันบัณฑิตแสดงอยู่
ย่อมได้ความรู้อรรถ ย่อมได้ความรู้ธรรม
ย่อมได้ปราโมทย์อันประกอบด้วยธรรม.
อริยสาวกนั้นรู้ชัดอย่างนี้ว่า
บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
ประกอบด้วยพละเช่นใด
ถึงเราก็ประกอบด้วยพละเช่นใด
ถึงเราก็ประกอบด้วยพละเช่นนั้น.
นี้ญาณที่ ๗ เป็นอริยะ
เป็นโลกุตระ
ไม่ทั่วไปกับพวกปุถุชน
อันอริยสาวกนั้นบรรลุแล้ว.
-
[๕๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ธรรมดาอันอริยสาวกผู้ประกอบด้วยองค์ ๗ ประการอย่างนี้
ตรวจดูดีแล้ว ด้วยการทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล.
--
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อริยสาวกผู้ประกอบด้วยองค์ ๗ ประการนี้แล
ย่อมเป็นผู้เพรียบพร้อมด้วยโสดาปัตติผล
ฉะนี้แล.
-
พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว
ภิกษุเหล่านั้น ชื่นชมยินดี พระภาษิต
ของพระผู้มีพระภาค ฉะนี้แล.
จบ โกสัมพิยสูตรที่ ๘
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๒
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
หน้าที่ ๔๑๕ ข้อที่ ๕๔๗ - ๕๔๘
http://etipitaka.com/read/thai/12/415/
--
ก็ ‪#‎ลาภานุตตริยะ‬ เป็นอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมได้ ‪#‎ลาภ‬
คือบุตรบ้าง ภรรยาบ้าง ทรัพย์บ้าง หรือลาภมากบ้าง
น้อยบ้าง หรือได้ศรัทธาในสมณะหรือ
พราหมณ์ผู้เห็นผิด
ผู้ปฏิบัติผิด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ลาภนี้มีอยู่ เราไม่กล่าวว่า ไม่มี
ก็แต่ว่าลาภนี้นั้นเป็นของเลว
...
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ส่วนผู้ใดมีศรัทธาตั้งมั่น
มีความรักตั้งมั่น
มีศรัทธาไม่หวั่นไหว
มีความเลื่อมใสยิ่ง
ย่อมได้ศรัทธาในพระตถาคตหรือสาวกของพระตถาคต
การได้นี้ยอดเยี่ยมกว่าการได้ทั้งหลาย
ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความบริสุทธิ์แห่งสัตว์ทั้งหลาย
...
เพื่อทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ข้อที่บุคคลผู้มีศรัทธาตั้งมั่น
มีความรักตั้งมั่น
มีศรัทธาไม่หวั่นไหว
มีความเลื่อมใสยิ่ง
ย่อมได้ศรัทธาในพระตถาคตหรือสาวกของพระตถาคตนี้
เราเรียกว่า ลาภานุตตริยะ
---
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๒
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
หน้าที่ ๒๙๖ ข้อที่ ๓๐๑
หน้าที่ 296
---

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น