วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

(((พระสาคตเถระแสดงอิทธิปาฏิหาริย์))) ปราฏิหาริย์ของปุถุชนไม่ใช่อริยะ มีจริงแสดงปรับอาบัติ.ไม่มีจริง.แสดงว่ามี..ขาดจากความเป็นพระ..



(((พระสาคตเถระแสดงอิทธิปาฏิหาริย์))) ปราฏิหาริย์ของปุถุชนไม่ใช่อริยะ
มีจริงแสดงปรับอาบัติ.ไม่มีจริง.แสดงว่ามี..ขาดจากความเป็นพระ..
Cr. คลิปวีดีโอ FB โดย ตะวัน พุทธวจน อิทธิปฏิหาริย์ต่างกับเดรัจฉานวิชาหรือไม่ https://www.facebook.com/100006612348069/videos/1740418602855201/?permPage=1
***************************************
ก็สมัยนั้น ท่านพระสาคตะ
เป็นอุปัฏฐากของพระผู้มีพระภาค
จึงพวกเขาพากันเข้าไปหาท่านพระสาคตะ
แล้วได้กราบเรียนว่า ท่านขอรับ
ประชาชนชาวตำบลแปดหมื่นนี้
เข้ามาในที่นี้ เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาค
ขอประทานโอกาสขอรับ
ขอพวกข้าพเจ้าพึงได้เฝ้าพระผู้มีพระภาค
--
ท่านพระสาคตะบอกว่า ถ้าเช่นนั้น
พวกท่านจงอยู่ ณ ที่นี้สักครู่หนึ่งก่อน
จนกว่าอาตมาจะกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
ดังนี้
-
และเมื่อพวกเขากำลังเพ่งมองอยู่ข้างหน้า
ท่านพระสาคตะดำลงไปในแผ่นหิน
อัฒจันทร์ผุดขึ้นตรงพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาค
แล้วได้กราบทูลคำนี้กะพระผู้มีพระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้า
ประชาชนชาวตำบลแปดหมื่นนี้พากันเข้ามา ณ ที่นี้
เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาค
พระผู้มีพระภาคย่อมทรงทราบกาลอันควรในบัดนี้
พระพุทธเจ้าข้า
-
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า ดูกรสาคตะ
ถ้ากระนั้นเธอจงปูลาดอาสนะ ณ ร่มเงาหลังวิหาร
ท่านพระสาคตะทูลสนองพระพุทธดำรัสว่า ทราบเกล้าฯ แล้ว
พระพุทธเจ้าข้า
-
แล้วถือตั่งดำลงไปตรงพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาค
เมื่อประชาชนชาวตำบลแปดหมื่นนั้นกำลังเพ่งมองอยู่ตรงหน้า
จึงผุดขึ้นลากแผ่นหินอัฒจันทร์แล้วปูลาดอาสนะ
ในร่มเงาหลังพระวิหาร.
-
เสด็จออกให้ประชาชนเข้าเฝ้า
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากพระวิหาร
แล้วประทับนั่งเหนือพระพุทธอาสน์ ที่จัดไว้
ณ ร่มเงาหลังพระวิหาร
จึงประชาชนชาวตำบลแปดหมื่นนั้น
เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค แล้ว
ถวายบังคมนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
-
และพวกเขาพากันสนใจแต่ท่านพระสาคตะเท่านั้น
หาได้สนใจต่อพระผู้มีพระภาค ไม่
-
ทันทีนั้น พระผู้มีพระภาค
ทรงทราบความปริวิตกแห่งใจของพวกเขา
ด้วยพระทัยแล้ว
-
จึงตรัสเรียกท่านพระสาคตะมารับสั่งว่า ดูกรสาคต
ถ้ากระนั้น เธอจงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์
ซึ่งเป็นธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์
ให้ยิ่งขึ้นไปอีก
-
ท่านพระสาคตะทูลรับสนองพระพุทธาณัติว่า อย่างนั้น
พระพุทธเจ้าข้า แล้วเหาะขึ้นสู่เวหาส
เดินบ้าง ยืนบ้าง นั่งบ้าง สำเร็จการนอนบ้าง
บังหวนควันบ้าง โพลงไฟบ้าง หายตัวบ้าง ในอากาศกลางหาว
-
ครั้นแสดงอิทธิปฏิหาริย์อันเป็นธรรมยวดยิ่งของมนุษย์
-
หลายอย่างในอากาศกลางหาว แล้ว
ลงมาซบศีรษะลงที่พระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาค
แล้วได้กราบทูล พระผู้มีพระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเป็นพระศาสดาของข้าพระพุทธเจ้า
ข้าพระพุทธเจ้าเป็นสาวกพระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเป็นพระศาสดาของข้าพระพุทธเจ้า
ข้าพระพุทธเจ้าเป็นสาวก ดังนี้
-
จึงประชาชนตำบลแปดหมื่นนั้นพูดสรรเสริญว่า
ชาวเราผู้เจริญอัศจรรย์นัก
ประหลาดแท้
เพียงแต่พระสาวกยังมีฤทธิ์มากถึงเพียงนี้
ยังมีอานุภาพมากถึงเพียงนี้
พระศาสดาต้องอัศจรรย์แน่
ดังนี้
-
แล้วพากันสนใจต่อพระผู้มีพระภาคเท่านั้น
หาสนใจต่อท่านพระสาคตะไม่
-
ทรงแสดงอนุปุพพิกถาและจตุราริยสัจ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาค
ทรงทราบความปริวิตกแห่งใจของพวกเขาด้วยพระทัย แล้ว
ทรงแสดง
-
อนุปุพพิกถา คือ ทรงประกาศ
ทานกถา
ศีลกถา
สัคคกถาโทษ
ความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามทั้งหลาย
และอานิสงส์ในความออกบรรพชา
-
เมื่อพระองค์ทรงทราบว่า
พวกเขามีจิตสงบ
มีจิตอ่อน
มีจิตปลอดจากนิวรณ์
มีจิตเบิกบาน
มีจิตผ่องใสแล้ว
-
จึงทรงประกาศพระธรรมเทศนา
ที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดง
ด้วยพระองค์เอง คือ
-
ทุกข์
สมุทัย
นิโรธ
มรรค
-
ดวงตาเห็นธรรม ปราศจากธุลี
ปราศจากมลทิน ได้เกิดแก่พวกเขา ณ ที่นั่งนั้นเองว่า
-
***สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา***
***สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา***
-
ดุจผ้าที่สะอาด
ปราศจากมลทินควรได้รับน้ำย้อมเป็นอย่างดี
ฉะนั้น
-
พวกเขาได้เห็นธรรมแล้ว
ได้บรรลุธรรมแล้ว
ได้รู้ธรรมแจ่มแจ้งแล้ว
มีธรรมอันหยั่งลงแล้ว
ข้ามความสงสัยได้แล้ว
ปราศจากถ้อยคำแสดงความสงสัย
ถึงความเป็นผู้แกล้วกล้า
ไม่ต้องเชื่อผู้อื่น
ในคำสอนของพระศาสดา
-
ได้กราบทูลคำนี้ต่อพระผู้มีพระภาคว่า
ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระพุทธเจ้าข้า
ภาษิตของพระองค์ไพเราะนัก พระพุทธเจ้าข้า
พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย
เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ
เปิดของที่ปิด
บอกทางแก่คนหลงทาง
หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า
คนมีจักษุจักเห็นรูป ดังนี้
-
ข้าพระพุทธเจ้าเหล่านี้
ขอถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรม
และพระภิกษุสงฆ์ว่า เป็นสรณะ
ขอพระองค์จงทรงจำพวกข้าพระพุทธเจ้าว่า
เป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะ
จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป.
--
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๕
วินัยปิฎก มหาวรรค ภาค ๒
หน้าที่ ๒ ข้อที่ ๑
--
http://etipitaka.com/read/thai/5/2/…

ประมาณนาทีที่ 31.14 https://www.youtube.com/watch?v=UP3aUAMMsN8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น