วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

พระอาจารย์คึกฤทธิ์-สนทนาธรรมเช้าวันอาทิตย์_หลังฉัน_2015-04-26



ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! มี ธรรมที่ลึก
ที่สัตว์อื่นเห็นได้ยาก ยากที่สัตว์อื่นจะรู้ตาม
เป็นธรรมเงียบสงบ ประณีต
ไม่เป็นวิสัยที่จะหยั่งลงง่ายแห่งความตรึก
เป็นของละเอียด รู้ได้เฉพาะบัณฑิตวิสัย;
ซึ่งเราตถาคตได้ทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
แล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้ง,
เป็นคุณวุฒิเครื่องนำไป
สรรเสริญของผู้ที่เมื่อจะพูดสรรเสริญเราตถาคต
ให้ถูกต้องตรงตามที่เป็นจริง.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ธรรมทั้งหลายเหล่านั้น เป็นอย่างไรเล่า?
[ หมวด ๑ ปุพพันตกัปปิกวาท ๑๘ ประการ ]
----
ถ้ายังละสิ่งที่ควรละไม่ได้...รูป..เสียง..กลิ่น..รส..(กามคุณ๕ ยังไม่ได้)..ก็จะฟังธรรมะชั้นลึก..ที่ละเอียด..ลึกซึ่ง..ปราณีต..ไม่เข้าใจ..เป็นธรรมดา..ประมาณนาทีที่ 57
---

https://www.youtube.com/watch?v=DSaW_6B0YAo&feature=share
ทันตภูมิสูตร
ดูกรอัคคิเวสสนะ
เปรียบเหมือนภูเขาใหญ่ไม่ห่างไกลบ้านหรือ นิคม
สหาย ๒ คนออกจากบ้านหรือนิคมนั้นไปยังภูเขาลูกนั้นแล้ว
จูงมือกันเข้า ไปยังที่ตั้งภูเขา
ครั้นแล้วสหายคนหนึ่ง ยืนที่เชิงภูเขาเบื้องล่าง
อีกคนหนึ่งขึ้นไป ข้างบนภูเขา
สหายที่ยืนตรงเชิงภูเขาข้างล่าง
เอ่ยถามสหายผู้ยืนบนภูเขานั้น
อย่างนี้ว่า
-
แน่ะเพื่อน เท่าที่เพื่อนยืนบนภูเขานั้น
เพื่อนเห็นอะไร
-
สหายคนนั้น ตอบอย่างนี้ว่า เพื่อนเอ๋ย
เรายืนบนภูเขาแล้วเห็นสวน ป่าไม้ ภูมิภาค
และ สระโบกขรณีที่น่ารื่นรมย์
สหายข้างล่างกล่าวอย่างนี้ว่า
แน่ะเพื่อน ข้อที่เพื่อนยืน บนภูเขา
แล้วเห็นสวน ป่าไม้ ภูมิภาค และสระโบกขรณีที่น่ารื่นรมย์
นั่นไม่ใช่ ฐานะ ไม่ใช่โอกาสเลย
-
สหายที่ยืนบนภูเขา
จึงลงมายังเชิงเขาข้างล่างแล้ว
จูงแขนสหายคนนั้นให้ขึ้นไปบนภูเขาลูกนั้น
ให้สบายใจครู่หนึ่งแล้ว
เอ่ยถาม สหายนั้นว่า แน่ะเพื่อน
เท่าที่เพื่อนยืนบนภูเขาแล้วเพื่อนเห็นอะไร
สหายคนนั้น ตอบอย่างนี้ว่า เพื่อนเอ๋ย
เรายืนบนภูเขาแล้วแลเห็นสวน ป่าไม้ ภูมิภาค
และ สระโบกขรณีที่น่ารื่นรมย์
สหายคนขึ้นไปก่อนกล่าวอย่างนี้ว่า
แน่ะเพื่อน เราเพิ่งรู้ คำที่ท่านกล่าวอย่างนี้ว่า
เพื่อนเอ๋ย ข้อที่เพื่อนยืนบนภูเขา
แล้วเห็นสวน ป่าไม้ ภูมิภาค
และสระโบกขรณีที่น่ารื่นรมย์
นั่นไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาสเลย
เดี๋ยวนี้ เอง
-
และสหายคนขึ้นไปทีหลังก็พูดว่า
เราก็เพิ่งรู้คำที่ท่านกล่าวอย่างนี้ว่า
แน่ะ เพื่อน เรายืนบนภูเขาแล้วเห็นสวน ป่าไม้ ภูมิภาค
และสระโบกขรณีที่น่า รื่นรมย์
เดี๋ยวนี้เหมือนกัน
สหายคนขึ้นไปก่อนจึงพูดอย่างนี้ว่า
สหายเอ๋ย ความ เป็นจริง
เราถูกภูเขาใหญ่ลูกนี้กั้นไว้
จึงไม่แลเห็นสิ่งที่ควรเห็น นี้ ฉันใด
-
ดูกร อัคคิเวสสนะ
ฉันนั้นเหมือนกันแล
พระราชกุมารชยเสนะ ถูกกองอวิชชาใหญ่
ยิ่งกว่าภูเขาลูกนั้นกั้นไว้ บังไว้ ปิดไว้ คลุมไว้แล้ว
พระราชกุมารชยเสนะนั้นแล
-
ยังอยู่ท่ามกลางกาม
ยังบริโภคกาม
ถูกกามวิตกกิน
ถูกความเร่าร้อนเพราะกามเผา
ยังขวนขวายในการแสวงหากาม
จักทรงรู้ หรือทรงเห็น
หรือทรงทำให้แจ้ง
ซึ่งความข้อที่เขารู้
เขาเห็น
เขาบรรลุ
เขาทำให้แจ้งกันได้ด้วยเนกขัมมะ
นั่นไม่ ใช่ฐานะที่มีได้
-
ดูกรอัคคิเวสสนะ ถ้าอุปมา ๒ ข้อ
นี้จะพึงทำเธอให้แจ่มแจ้งแก่
พระราชกุมารชยเสนะได้
พระราชกุมารชยเสนะจะพึงเลื่อมใสเธอ
และเลื่อมใส
แล้วจะพึงทำอาการของบุคคล
ผู้เลื่อมใสต่อเธออย่างไม่น่าอัศจรรย์ ฯ
----
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๔
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
หน้าที่ ๒๐๕ ข้อที่ ๓๘๘ - ๓๘๙
--
http://etipitaka.com/read/thai/14/205/…

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น