***อานิสงส์ของการทรงจำคำพระศาสดา***
******************************************
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๔ ประการแห่งธรรมทั้งหลาย
ที่บุคคลฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ
อันบุคคลพึงหวังได้ อานิสงส์ ๔ ประการเป็นไฉน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ
สุตตะ...เวทัลละ ธรรมเหล่านั้น
เป็นธรรมอันภิกษุนั้นฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ
เธอมีสติหลงลืมเมื่อกระทำกาละ
ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่ง
บทแห่งธรรมทั้งหลายย่อมปรากฏแก่เธอผู้มีความสุขในภพนั้น
สติบังเกิดขึ้นช้า
แต่สัตว์นั้นย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๑
แห่งธรรมทั้งหลาย ที่บุคคลฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ
แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้ ฯ
อีกประการหนึ่ง
ภิกษุย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ...เวทัลละ ธรรมเหล่านั้นเป็นธรรมอันภิกษุนั้น
ฟังเนืองๆ คล่องปากขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ
เธอมีสติหลงลืม เมื่อกระทำกาละ
ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่ง
บทแห่งธรรมทั้งหลายย่อม ไม่ปรากฏแก่เธอผู้มี
ความสุขอยู่ในภพนั้นเลย แต่ภิกษุผู้มีฤทธิ์
ถึงความชำนาญแห่งจิต แสดงธรรมแก่เทพบริษัท
เธอมีความปริวิตกอย่างนี้ว่า
ในกาลก่อนเราได้ประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยใด
นี้คือธรรมวินัยนั้น
สติบังเกิดขึ้นช้า
แต่ว่าสัตว์นั้นย่อมบรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุรุษผู้ฉลาดต่อเสียงกลอง
เขาเดินทางไกล พึงได้ยินเสียงกลอง
เขาไม่พึงมีความสงสัย
หรือเคลือบแคลงว่าเสียงกลองหรือไม่ใช่หนอ
ที่แท้เขาพึงถึงความตกลงใจว่าเสียงกลองทีเดียว
ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ย่อมเล่าเรียนธรรม ฯลฯ
ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย
นี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๒
แห่งธรรมทั้งหลายที่ภิกษุฟังเนืองๆ คล่องปาก
ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้ ฯ
อีกประการหนึ่ง
ภิกษุย่อมเล่าเรียนธรรม คือ
สุตตะ...บทแห่งธรรมทั้งหลายย่อมไม่ปรากฏแก่เธอ
ผู้มีความสุขอยู่ในภพนั้นเลย
ทั้งภิกษุผู้มีฤทธิ์ถึงความชำนาญแห่งจิต
ก็ไม่ได้แสดงธรรมในเทพบริษัท
แต่เทพบุตรย่อมแสดงธรรมในเทพบริษัท
เธอมีความคิดอย่างนี้ว่าในกาลก่อน
เราได้ประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยใด
นี้คือธรรมวินัยนั้นเอง สติบังเกิดขึ้นช้า
แต่ว่าสัตว์นั้น ย่อมบรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุรุษผู้ฉลาดต่อเสียงสังข์
เขาเดินทางไกล
พึงได้ฟังเสียงสังข์เข้า
เขาไม่พึงมีความสงสัยหรือเคลือบแคลงว่า
เสียงสังข์หรือมิใช่หนอ
ที่แท้เขาพึงถึงความตกลงใจว่าเสียงสังข์ทีเดียว ฉันใด
ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกันย่อมเล่าเรียนธรรม ฯลฯ
ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย
นี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๓
แห่งธรรมทั้งหลายที่ภิกษุฟังเนืองๆ คล่องปาก
ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิอันบุคคลพึงหวังได้ ฯ
อีกประการหนึ่ง
ภิกษุย่อมเล่าเรียนธรรม คือ
สุตตะ...บทแห่งธรรมทั้งหลาย
ย่อมไม่ปรากฏแก่เธอผู้มีความสุขอยู่ในภพนั้นเลย
แม้ภิกษุผู้มีฤทธิ์ถึงความชำนาญแห่งจิต
ก็มิได้แสดงธรรมในเทพบริษัท
แม้เทพบุตรก็ไม่ได้แสดงธรรมในเทพบริษัท
แต่เทพบุตรผู้เกิดก่อนเตือนเทพบุตรผู้เกิดทีหลังว่า
ท่านผู้นฤทุกข์ย่อมระลึกได้หรือว่า
เราได้ประพฤติพรหมจรรย์ในกาลก่อน
เธอกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้นฤทุกข์
สติบังเกิดขึ้นช้า
แต่ว่าสัตว์นั้นย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย
สหายสองคนเล่นฝุ่นด้วยกัน
เขามาพบกันบางครั้งบางคราวในที่บางแห่ง
สหายคนหนึ่งพึงกล่าวกะสหายคนนั้นอย่างนี้ว่า
สหาย ท่านระลึกกรรมแม้นี้ได้หรือ
เขาพึงกล่าวอย่างนี้ว่า เราระลึกได้ เราระลึกได้ ฉันใด
ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเล่าเรียนธรรม ฯลฯ
ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน
ดูกร ภิกษุทั้งหลายนี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๔
แห่งธรรมทั้งหลาย ที่ภิกษุฟังเนืองๆ คล่องปาก
ขึ้นใจแทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๔ ประการนี้
แห่งธรรมทั้งหลาย ที่ภิกษุฟังแล้วเนืองๆ คล่องปากขึ้นใจ
แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้ ฯ
(ภาษาไทย) จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๗๘/๑๙๑
******************************************
อ่านพุทธวจน เพิ่มเติมได้จาก โปรแกรม E - Tipitaka
http://etipitaka.com/read?language=thai&number=178&volume=21
******************************************
ฟังพุทธวจนบรรยายได้ที่ www.watnapp.com
ภาพประกอบพระสูตร... มัคคานุคา..ตัวน้อย..น้องฟ้า พี่ดิวส์..จากลพบุรี
— กับ ตักสิลา ล่องไพร และ ฟ้า ฟ้า
**************************
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๔ ประการแห่งธรรมทั้งหลาย
ที่บุคคลฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ
อันบุคคลพึงหวังได้ อานิสงส์ ๔ ประการเป็นไฉน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมเล่
สุตตะ...เวทัลละ ธรรมเหล่านั้น
เป็นธรรมอันภิกษุนั้นฟังเนื
เธอมีสติหลงลืมเมื่อกระทำกา
ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดห
บทแห่งธรรมทั้งหลายย่อมปราก
สติบังเกิดขึ้นช้า
แต่สัตว์นั้นย่อมเป็นผู้บรร
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๑
แห่งธรรมทั้งหลาย ที่บุคคลฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ
แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้ ฯ
อีกประการหนึ่ง
ภิกษุย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ...เวทัลละ ธรรมเหล่านั้นเป็นธรรมอันภิ
ฟังเนืองๆ คล่องปากขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ
เธอมีสติหลงลืม เมื่อกระทำกาละ
ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดห
บทแห่งธรรมทั้งหลายย่อม ไม่ปรากฏแก่เธอผู้มี
ความสุขอยู่ในภพนั้นเลย แต่ภิกษุผู้มีฤทธิ์
ถึงความชำนาญแห่งจิต แสดงธรรมแก่เทพบริษัท
เธอมีความปริวิตกอย่างนี้ว่
ในกาลก่อนเราได้ประพฤติพรหม
นี้คือธรรมวินัยนั้น
สติบังเกิดขึ้นช้า
แต่ว่าสัตว์นั้นย่อมบรรลุคุ
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุรุษผู้ฉลาดต่อเสียงกลอง
เขาเดินทางไกล พึงได้ยินเสียงกลอง
เขาไม่พึงมีความสงสัย
หรือเคลือบแคลงว่าเสียงกลอง
ที่แท้เขาพึงถึงความตกลงใจว
ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ย่อมเล่าเรียนธรรม ฯลฯ
ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษเร
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย
นี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๒
แห่งธรรมทั้งหลายที่ภิกษุฟั
ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้ ฯ
อีกประการหนึ่ง
ภิกษุย่อมเล่าเรียนธรรม คือ
สุตตะ...บทแห่งธรรมทั้งหลาย
ผู้มีความสุขอยู่ในภพนั้นเล
ทั้งภิกษุผู้มีฤทธิ์ถึงความ
ก็ไม่ได้แสดงธรรมในเทพบริษั
แต่เทพบุตรย่อมแสดงธรรมในเท
เธอมีความคิดอย่างนี้ว่าในก
เราได้ประพฤติพรหมจรรย์ในธร
นี้คือธรรมวินัยนั้นเอง สติบังเกิดขึ้นช้า
แต่ว่าสัตว์นั้น ย่อมบรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุรุษผู้ฉลาดต่อเสียงสังข์
เขาเดินทางไกล
พึงได้ฟังเสียงสังข์เข้า
เขาไม่พึงมีความสงสัยหรือเค
เสียงสังข์หรือมิใช่หนอ
ที่แท้เขาพึงถึงความตกลงใจว
ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกันย่อ
ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษเร
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย
นี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๓
แห่งธรรมทั้งหลายที่ภิกษุฟั
ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิอันบุ
อีกประการหนึ่ง
ภิกษุย่อมเล่าเรียนธรรม คือ
สุตตะ...บทแห่งธรรมทั้งหลาย
ย่อมไม่ปรากฏแก่เธอผู้มีควา
แม้ภิกษุผู้มีฤทธิ์ถึงความช
ก็มิได้แสดงธรรมในเทพบริษัท
แม้เทพบุตรก็ไม่ได้แสดงธรรม
แต่เทพบุตรผู้เกิดก่อนเตือน
ท่านผู้นฤทุกข์ย่อมระลึกได้
เราได้ประพฤติพรหมจรรย์ในกา
เธอกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้นฤทุกข์
สติบังเกิดขึ้นช้า
แต่ว่าสัตว์นั้นย่อมเป็นผู้
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย
สหายสองคนเล่นฝุ่นด้วยกัน
เขามาพบกันบางครั้งบางคราวใ
สหายคนหนึ่งพึงกล่าวกะสหายค
สหาย ท่านระลึกกรรมแม้นี้ได้หรือ
เขาพึงกล่าวอย่างนี้ว่า เราระลึกได้ เราระลึกได้ ฉันใด
ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเล่าเรียนธรรม ฯลฯ
ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษเร
ดูกร ภิกษุทั้งหลายนี้เป็นอานิสง
แห่งธรรมทั้งหลาย ที่ภิกษุฟังเนืองๆ คล่องปาก
ขึ้นใจแทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐ
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๔ ประการนี้
แห่งธรรมทั้งหลาย ที่ภิกษุฟังแล้วเนืองๆ คล่องปากขึ้นใจ
แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้ ฯ
(ภาษาไทย) จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๗๘/๑๙๑
**************************
อ่านพุทธวจน เพิ่มเติมได้จาก โปรแกรม E - Tipitaka
http://etipitaka.com/
**************************
ฟังพุทธวจนบรรยายได้ที่ www.watnapp.com
ภาพประกอบพระสูตร... มัคคานุคา..ตัวน้อย..น้องฟ้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น