***ธรรมเป็นรุ่งอรุณแห่งอัฏ ฐังคิกมรรค***
************************** **************
ภิกษุ ท. ! เมื่อดวงอาทิตย์กำลังขึ้น
สิ่งที่มาก่อน เป็น นิมิตให้เห็นก่อน
คือการขึ้นมาแห่งอรุณ ฉันใด ;
ภิกษุ ท. ! เมื่อมีการเกิดขึ้นแห่งอริย อัฏฐังคิกมรรคของภิกษุ
สิ่งที่มาก่อน เป็นนิมิตให้เห็นก่อน คือ กัล๎ยาณมิตตตา
(ความเป็นผู้กัลยาณมิตร) ฉันนั้นเหมือนกัน.
ภิกษุ ท. ! นี้คือความหวังของภิกษุผู้ม ี กัลยาณมิตร
คือเธอจักเจริญอริยอัฏฐังคิ กมรรค
ได้จักกระทำให้มากซึ่งอริยอ ัฏฐังคิกมรรคได้.
ภิกษุ ท. ! ภิกษุผู้มีกัลยาณมิตร
ย่อมเจริญอริยอัฏฐังคิกมรรค
ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยอัฏ ฐังคิกมรรคได้ ชนิดไหนกันเล่า?
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ ....
สัมมาสังกัปปะ ....
สัมมาวาจา ....
สัมมากัมมันตะ ....
สัมมาอาชีวะ ....
สัมมาวายามะ ....
สัมมาสติ ....
สัมมาสมาธิ.
ชนิดที่ อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสลัดลง.
ภิกษุ ท. ! ภิกษุผู้มีกัลยาณมิตร
ย่อมเจริญอริยอัฏฐังคิกมรรค
ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยอัฏ ฐังคิกมรรคได้ อย่างนี้แล.
- มหาวาร. สํ. ๑๙/๓๖ - ๓๙/๑๒๙ - ๑๔๖.
[ในตำแหน่งแห่ง กัล๎ยาณมิตตตา ในฐานะเป็นรุ่งอรุณแห่งอัฏฐ ังคิกมรรคนั้น
ในสูตรอื่น
ทรงแสดงไว้ด้วยธรรมะชื่ออื่ นอีกหลายชื่อคือ:-
ศีลสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศีล) เป็นรุ่งอรุณ
ฉันทสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยฉันทะ - ความพอใจ) เป็นรุ่งอรุณ
พ๎ยัคฆปัชชะ ! สีลสัมปทา เป็นอย่างไรเล่า ?
พ๎ยัคฆปัชชะ ! กุลบุตร ในกรณีนี้
เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต
เป็นผู้เว้นขาดจากอทินนาทาน
เป็นผู้เว้นขาดจากกาเมสุมิจ ฉาจาร
เป็นผู้เว้นขาดจากมุสาวาท
เป็นผู้เว้นขาดจากสุราเมรยม ัชชปมาทัฏฐาน.
พ๎ยัคฆปัชชะ ! นี้เราเรียกว่า สีลสัมปทา.
(สืบค้น ด้วยโปรแกรม E-Tipitaka อริยสัจจากพระโอษฐ์ ๒ หน้า ๑๑๐๖
************************** *******
อ่านพุทธวจน เพิ่มเติมได้ด้วย โปรแกรม E-Tipitaka
อัญเชิญภาพพระสูตรโดย Maki Pijika
— กับ Maki Pijika, ตักสิลา ล่องไพร, ฟ้า ฟ้า และ Suwan Kowsakul**************************
ภิกษุ ท. ! เมื่อดวงอาทิตย์กำลังขึ้น
สิ่งที่มาก่อน เป็น นิมิตให้เห็นก่อน
คือการขึ้นมาแห่งอรุณ ฉันใด ;
ภิกษุ ท. ! เมื่อมีการเกิดขึ้นแห่งอริย
สิ่งที่มาก่อน เป็นนิมิตให้เห็นก่อน คือ กัล๎ยาณมิตตตา
(ความเป็นผู้กัลยาณมิตร) ฉันนั้นเหมือนกัน.
ภิกษุ ท. ! นี้คือความหวังของภิกษุผู้ม
คือเธอจักเจริญอริยอัฏฐังคิ
ได้จักกระทำให้มากซึ่งอริยอ
ภิกษุ ท. ! ภิกษุผู้มีกัลยาณมิตร
ย่อมเจริญอริยอัฏฐังคิกมรรค
ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยอัฏ
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ ....
สัมมาสังกัปปะ ....
สัมมาวาจา ....
สัมมากัมมันตะ ....
สัมมาอาชีวะ ....
สัมมาวายามะ ....
สัมมาสติ ....
สัมมาสมาธิ.
ชนิดที่ อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสลัดลง.
ภิกษุ ท. ! ภิกษุผู้มีกัลยาณมิตร
ย่อมเจริญอริยอัฏฐังคิกมรรค
ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยอัฏ
- มหาวาร. สํ. ๑๙/๓๖ - ๓๙/๑๒๙ - ๑๔๖.
[ในตำแหน่งแห่ง กัล๎ยาณมิตตตา ในฐานะเป็นรุ่งอรุณแห่งอัฏฐ
ในสูตรอื่น
ทรงแสดงไว้ด้วยธรรมะชื่ออื่
ศีลสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศีล) เป็นรุ่งอรุณ
ฉันทสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยฉันทะ - ความพอใจ) เป็นรุ่งอรุณ
พ๎ยัคฆปัชชะ ! สีลสัมปทา เป็นอย่างไรเล่า ?
พ๎ยัคฆปัชชะ ! กุลบุตร ในกรณีนี้
เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต
เป็นผู้เว้นขาดจากอทินนาทาน
เป็นผู้เว้นขาดจากกาเมสุมิจ
เป็นผู้เว้นขาดจากมุสาวาท
เป็นผู้เว้นขาดจากสุราเมรยม
พ๎ยัคฆปัชชะ ! นี้เราเรียกว่า สีลสัมปทา.
(สืบค้น ด้วยโปรแกรม E-Tipitaka อริยสัจจากพระโอษฐ์ ๒ หน้า ๑๑๐๖
**************************
อ่านพุทธวจน เพิ่มเติมได้ด้วย โปรแกรม E-Tipitaka
อัญเชิญภาพพระสูตรโดย Maki Pijika
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น