วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ช้างมาตังคะ ท่องไปผู้เดียว แล้วไม่ทำบาป



***ช้างมาตังคะ..เที่ยวไปคน
เดีียว..แล้วไม่ทำบาป***
**************************************************
...เราจักอดกลั้นซึ่งคำล่วงเกิน
ดุจช้างอดทนซึ่งลูกศรที่ออกมาจากแล่ง ในสงคราม ฉะนั้น
เพราะคนทุศีลมีมาก 
ชนทั้งหลายย่อมนำสัตว์ พาหนะที่ฝึกหัดแล้วไปสู่ที่ชุมนุม
พระราชาย่อมทรงพาหนะที่ได้ฝึกหัด แล้ว
ในหมู่มนุษย์คนที่ได้ฝึกแล้
อดทนซึ่งคำล่วงเกินได้
เป็นผู้ประเสริฐ สุด
ม้าอัสดร ม้าอาชาไนย ม้าสินธพ และช้างกุญชร
ผู้มหานาคชนิด ที่นายควานฝึกแล้ว
จึงเป็นสัตว์ประเสริฐ
บุคคลผู้มีตนอันฝึกแล้ว
ประเสริฐกว่าพาหนะเหล่านั้น
บุคคลผู้ฝึกตนแล้ว
พึงไปสู่ทิศที่ยังไม่เคย ไปด้วยตนที่ฝึกแล้ว
ฝึกดีแล้ว ได้ ฉันใด
บุคคลพึงไปสู่ทิศที่ยังไม่เคย ไปแล้วด้วยยานเหล่านี้ ฉันนั้น
หาได้ไม่ กุญชรนามว่า ธนปาลกะ ผู้ ตกมันจัด
ห้ามได้ยาก
เขาผูกไว้แล้ว
ย่อมไม่บริโภคอาหารกุญชรย่อมระลึก ถึงป่าเป็นที่อยู่แห่งช้าง
เมื่อใด บุคคลเป็นผู้บริโภคมาก
มักง่วงซึม
นอนหลับ พลิกกลับไปมา
ดุจสุกรใหญ่อันบุคคลปรนปรือด้วยเหยื่อ เมื่อ นั้น
บุคคลนั้นเป็นคนเขลาเข้าห้องบ่อยๆ จิตนี้
ได้เที่ยวไปสู่ที่จาริกตาม ความปรารถนา
ตามความใคร่
ตามความสุข
ในกาลก่อนวันนี้ เราจักข่ม จิตนั้นโดยอุบายอันแยบคาย
ดุจนายควานช้างผู้ถือขอข่มช้างผู้ตกมัน ฉะนั้น
ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ยินดีในความไม่ประมาท
จงตามรักษาจิต ของตน
จงถอนตนขึ้นจากหล่มคือกิเลสที่ถอนได้ยาก
ดุจกุญชรผู้จม แล้วในเปือกตมถอนตนขึ้นได้ ฉะนั้น
ถ้าว่าบุคคลพึงได้สหายผู้มี ปัญญารักษาตน
ผู้เที่ยวไปด้วยกัน
มีปกติอยู่ด้วยกรรมดี
เป็นนักปราชญ์ ไซร้
บุคคลนั้นพึงครอบงำอันตรายทั้งปวง
มีใจชื่นชม
มีสติเที่ยวไป
กับสหายนั้น
ถ้าว่าบุคคลไม่พึงได้สหายผู้มีปัญญารักษาตน
ผู้เที่ยวไปด้วย กันมีปกติอยู่ด้วยกรรมดี
เป็นนักปราชญ์ไซร้
บุคคลนั้นพึงเที่ยวไปผู้ เดียวดุจพระราชาทรงละแว่นแคว้น
อันพระองค์ทรงชนะ
แล้วเสด็จเที่ยว ไปพระองค์เดียว
ดุจช้างชื่อมาตังคะละโขลงเที่ยวไปตัวเดียวในป่า
ฉะนั้น การเที่ยวไปของบุคคลผู้เดียวประเสริฐกว่า
เพราะความเป็น สหายไม่มีในเพราะชนพาล
บุคคลพึงเที่ยวไปผู้เดียว
ดุจช้างชื่อมาตังคะ
มีความขวนขวายน้อยเที่ยวไปในป่า
และไม่พึงทำบาปทั้งหลาย
สหายทั้งหลายเมื่อความต้องการเกิดขึ้น
นำความสุขมาให้
ความยิน ดีด้วยปัจจัยตามมีตามได้
นำมาซึ่งความสุข บุญนำความสุขมาให้ใน เวลาสิ้นชีวิต
การละทุกข์ได้ทั้งหมดนำมาซึ่งความสุขความเป็นผู้เกื้อกูล
มารดานำมาซึ่งความสุขในโลก
ความเป็นผู้เกื้อกูลบิดานำมาซึ่งความสุข
ความเป็นผู้เกื้อกูลสมณะ
นำมาซึ่งความสุขในโลก
และความเป็นผู้เกื้อกูล พราหมณ์
นำมาซึ่งความสุขในโลก
ศีลนำมาซึ่งความสุขตราบเท่าชรา
ศรัทธาตั้งมั่นแล้วนำมาซึ่งความสุข
การได้เฉพาะซึ่งปัญญานำมาซึ่ง ความสุข
การไม่ทำบาปทั้งหลายนำมาซึ่งความสุข ฯ

พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๕
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
หน้าที่ ๔๐/๔๑๘ ข้อที่ ๓๓
*************************************
อ่านพุทธวจน เพิ่มเติมได้จากโปรแกรม E-Tipitaka
http://etipitaka.com/read?keywords=มาตังคะ&language=thai&number=41&volume=25#
*************************************
ฟังพุทธวจน บรรยายได้ที่ www.watnapp.com
อัญเชิญภาพพระสูตรโดย Maki Pijika
 — กับ ตักสิลา ล่องไพรMaki Pijika และ ฟ้า ฟ้า

1 ความคิดเห็น: