วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
สนทนาธรรมหลังฉันท์เช้าวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฏาคม 2558
วันนี้ วันนี้ เลย ท่านใดพลาดพระอาจารย์แสดงธรรม
#สัตตานังเกาะวิญญาณ
https://www.youtube.com/watch?v=gBsrc3nsFno&feature=share
นวสูตร
......... กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา
วิญญาณชื่อว่าเป็นพืช
ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง
-
((วิญญาณ))...ประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างเลวของ..(((สัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ)))) .....
-
ด้วยประการฉะนี้
จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก............
-
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๐
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
หน้าที่ ๒๑๑ ข้อที่ ๕๑๖
---
http://etipitaka.com/read/thai/20/211/…
---
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ที่เรียกกันว่า ‘สัตว์ สัตว์’ ดังนี้,
อันว่าสัตว์มีได้ ด้วยเหตุเพียงไรเล่า พระเจ้าข้า
ราธะ !
ฉันทะ (ความพอใจ)
ราคะ (ความกําหนัด)
นันทิ (ความเพลิน)
ตัณหา (ความอยาก)
ใดๆ มีอยูใน
#รูป เพราะการติดแล้ว ข้องแล้วในรูปนั้น
เพราะฉะนั้น จึงเรียกว่า “สัตว์” (ผู้ข้องติดในขันธ์ทั้ง ๕) ดังนี้.
ราธะ !
ฉันทะ
ราคะ
นันทิ
ตัณหา
ใดๆ มีอยูใน
#เวทนา (ความรู้สึกสุข ทุกข์และไม่สุขไม่ทุกข์)
เพราะการติดแล้ว ข้องแล้วในเวทนานั้น
เพราะฉะนั้น จึงเรียกว่า “สัตว์” ดังนี้.
ราธะ !
ฉันทะ
ราคะ
นันทิ
ตัณหา
ใดๆ มีอยู่ใน
#สัญญา (ความหมายรู้)
เพราะการติดแล้ว ข้องแล้วในสัญญานั้น
เพราะฉะนั้น จึงเรียกว่า “สัตว์” ดังนี้.
ราธะ !
ฉันทะ
ราคะ
นันทิ
ตัณหา
ใดๆ มีอยู่ใน
#สังขารทั้งหลาย (ความปรุงแต่ง)
เพราะการติดแล้ว
ข้องแล้วในสังขารทั้งหลายนั้น
เพราะฉะนั้น จึงเรียกว่า “สัตว์” ดังนี้.
ราธะ !
ฉันทะ
ราคะ
นันทิ
ตัณหา
ใดๆ มีอยูใน
#วิญญาณ
เพราะการติดแล้ว ข้องแล้วในวิญญาณนั้น
เพราะฉะนั้น จึงเรียกวา “สัตว์” ดังนี้แล.
พุทธวจน ภพภูมิ หน้า ๒๓.
(ภาษาไทย) ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๙๑/๓๖๗.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น