วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

บรรยายธรรมนอกสถานที่ ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าตากสินมหาราช จันทบุรี



**สัตว์เวียนว่ายตายเกิด***

https://www.youtube.com/watch?v=lwTO7jXWlNk

#สิ่ง #สิ่งหนึ่ง

ภิกษุ ! ในปัญหานั้น คำตอบมีดังนี้:“สิ่ง” สิ่งหนึ่ง

ซึ่งบุคคลพึงรู้แจ้ง

เป็นสิ่งที่ไม่มีปรากฏการณ์ไม่ม­ีที่สุด

แต่มีทางปฏิบัติเข้ามาถึงได้โดย­รอบ,นั้นมีอยู่.

ใน “สิ่ง”นั้นแหละ ดิน น้ำ ไฟ ลม ไม่หยั่งลงได้. ใน “สิ่ง”

นั้นแหละความยาว ความสั้น ความเล็ก ความใหญ่ ความงาม ความไม่งาม

ไม่หยั่งลงได้. ใน “สิ่ง” นั้นแหละ นามรูปย่อมดับสนิท ไม่มีเศษเหลือ.

นามรูป ดับสนิทใน “สิ่ง” นี้ เพราะการดับสนิทของวิญญาณ, ดังนี้”.



บาลี เกวัฏฏสูตร สี. ที. ๙/๒๗๗/๓๔๓.

ตรัสแก่เกวัฏฏะคหบดี ที่ปาวาริกัมพวัน เมืองนาลันทา.

---

‪#‎สัตว์ต้องเวียนว่ายเพราะไม่เห็นอริยสัจ‬

ภิกษุทั้งหลาย !

เปรียบเหมือนท่อนไม้อันบุคคลซัดขึ้นไปสู่อากาศ

บางคราวตกเอาโคนลง

บางคราวตกเอาตอนกลางลง

บางคราวตกเอาปลายลง, ข้อนี้ฉันใด ;

-

ภิกษุทั้งหลาย !

สัตว์ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น

มีตัณหาเป็นเครื่องผูก

แล่นไปอยู่

ท่องเที่ยวไปอยู่ในสังสารวัฏ

-

ก็ทำนองเดียวกัน

บางคราวแล่นไปจากโลกนี้สู่โลกอื่น

บางคราวแล่นจากโลกอื่นสู่โลกนี้.

ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?

-

ภิกษุทั้งหลาย !

ข้อนั้น เพราะความที่เขาเป็นผู้ไม่เห็นซึ่งอริยสัจทั้งสี่.

อริยสัจสี่อย่างไรเล่า ? สี่อย่างคือ

อริยสัจคือทุกข์

อริยสัจคือเหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์

อริยสัจ คือความดับไม่เหลือแห่งทุกข์

อริยสัจคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์

-

ภิกษุทั้งหลาย !

เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้

เธอพึงประกอบโยคกรรม

อันเป็นเครื่องกระทำให้รู้ว่า

“ทุกข์ เป็นอย่างนี้,

เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้,

ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้,

ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้” ดังนี้

อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคต้น หน้า ๙๗

(ภาษาไทย) มหาวาร. สํ. ๑๙ / ๔๓๕ / ๑๗๑๖

---

‪#‎ความสิ้นตัณหา‬ คือ ‪#‎นิพพาน‬ (เหตุที่เรียกว่า “สัตว์”)

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ที่เรียกว่า ‘สัตว์ สัตว์’ ดังนี้,

อันว่าสัตว์มีได้ด้วยเหตุเพียงเท่าไรเล่า ? พระเจ้าข้า !”

ราธะ !

ความพอใจอันใด

ราคะอันใด

นันทิอันใด

ตัณหาอันใด

มีอยู่ในรูป ในเวทนา ในสัญญา

ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ,

เพราะการติดแล้ว ข้องแล้ว ในสิ่งนั้น ๆ,

เพราะฉะนั้นจึงเรียกว่า ‘สัตว์’ ดังนี้

--

อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคต้น หน้า ๔๒๑

(ภาษาไทย) ขนฺธ. สํ. ๑๗ / ๑๙๑ / ๓๖๗

http://etipitaka.com/read?language=thai&number=191&volume=17

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น