วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สนทนาธรรมหลังฉันท์เช้าวันจันทร์ที่ 20 กรกฏาคม 2558



**พระอรหันต์มีตำแหน่งเดียวมาจากหลายวิธี..แต่เห็นเหมือนกันหมด..**

ประมาณนาทีที่ 8.57 https://www.youtube.com/watch?v=DMqn2jHNUts

‪#‎เหตุแห่งวิมุตติ‬ ๕ ประการ

..มีบทสรุปเดียวกันคือ..

.... เมื่อเธอเข้าใจอรรถ

เข้าใจธรรมย่อมเกิดปราโมทย์

เมื่อเกิดปราโมทย์แล้ว

ย่อมเกิดปีติ

เมื่อใจเกิดปีติกายย่อมสงบ

ผู้มีกายสงบแล้ว

ย่อมได้เสวยสุข

เมื่อมีสุข

จิตย่อมตั้งมั่น(สัมมาสมาธิ)

ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุแห่ง วิมุตติข้อที่ ๑,๒,๓,๔,๕

---

เหตุวิมุตติ (อย่างย่อ)

๑.ขณะรับการแสดงธรรมจากพระศาสดาเพื่อนสพรหมจารีก็บรรลุธรรม

๒.ขณะภิกษุนั้นเองแสดงธรรมก็บรรลุธรรม

๓.ขณะภิกษุย่อมทำการสาธยายธรรมเท่าที่ได้สดับก็ได้บรรลุธรรม

๔.ขณะภิกษุย่อมตรึกตรองใคร่ครวญธรรมเท่าที่ได้สดับก็บรรลุธรรม

๕.สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่งเธอเล่าเรียนมาด้วยดีทำไว้ในใจด้วยดีทรงไว้ด้วยดีแทงตลอดด้วยดีด้วยปัญญา ก็บรรลุธรรม

-----------

‪#‎วิมุตติสูตร‬

[๒๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุแห่งวิมุตติ ๕ ประการนี้

ซึ่งเป็นเหตุให้จิตของภิกษุผู้ไม่ประมาท มีความเพียร

มีใจเด็ดเดี่ยวที่ยังไม่หลุดพ้น ย่อมหลุดพ้นอาสวะที่ยังไม่สิ้น

ย่อมถึงความสิ้นไป

หรือเธอย่อมบรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะชั้นเยี่ยม

ที่ยังไม่ได้บรรลุ เหตุแห่งวิมุตติ ๕ ประการเป็นไฉน



ดูกรภิกษุทั้งหลายพระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีผู้อยู่ใน

ฐานะครูบางรูป แสดงธรรมแก่ภิกษุในธรรมวินัยนี้

เธอย่อมเข้าใจอรรถเข้าใจธรรมในธรรมนั้น

ตามที่พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารี

ผู้อยู่ในฐานะครูแสดงแก่เธอ เมื่อเธอเข้าใจอรรถ

เข้าใจธรรมย่อมเกิดปราโมทย์ เมื่อเกิดปราโมทย์แล้ว

ย่อมเกิดปีติ เมื่อใจเกิดปีติกายย่อมสงบ

ผู้มีกายสงบแล้ว ย่อมได้เสวยสุข เมื่อมีสุข

จิตย่อมตั้งมั่น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุแห่ง วิมุตติข้อที่ ๑

------------------------

ซึ่งเป็นเหตุให้จิตของภิกษุผู้ไม่ประมาท

มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ที่ยังไม่หลุดพ้น

ย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นไป ย่อมถึงความสิ้นไป

หรือเธอย่อมได้บรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะชั้นเยี่ยม

ที่ยังไม่ได้บรรลุ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง

พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารี ผู้อยู่ในฐานะครูบางรูป

ก็ไม่ได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ก็แต่ว่าภิกษุย่อมแสดงธรรมเท่าที่ได้สดับ

ได้ศึกษาเล่าเรียนมาแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดาร

เธอย่อมเข้าใจอรรถเข้าใจธรรมในธรรมนั้น ที่ภิกษุแสดงธรรม

เท่าที่ได้สดับ ได้ศึกษาเล่าเรียนมาแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดาร

เมื่อเธอเข้าใจอรรถ เข้าใจธรรม ย่อมเกิดปราโมทย์ ...

เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุแห่งวิมุตติข้อที่ ๒ ...

--------------------------

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง

พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีผู้อยู่ในฐานะครู

บางรูป ก็ไม่ได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ

แม้ภิกษุก็ไม่ได้แสดงธรรมเท่าที่ได้สดับ ได้ศึกษาเล่าเรียน

มาแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดาร

ก็แต่ว่าภิกษุย่อมทำการสาธยายธรรมเท่าที่ได้สดับ

ได้ศึกษาเล่าเรียนมาโดยพิสดาร

เธอย่อมเข้าใจอรรถ เข้าใจธรรม ในธรรมนั้น

ตามที่ภิกษุสาธยายธรรมเท่าที่ได้สดับ

ได้ศึกษาเล่าเรียนมาโดยพิสดาร เมื่อเธอเข้าใจอรรถ

เข้าใจธรรม ย่อมเกิดปราโมทย์ ...

เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุแห่งวิมุตติข้อที่ ๓ ...

---------------------------------

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง

พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีผู้อยู่ในฐานะครู

บางรูป ก็ไม่ได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ

ภิกษุก็ไม่ได้แสดงธรรมเท่าที่ได้สดับ ได้ศึกษาเล่าเรียนมา

แก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดาร

แม้ภิกษุก็ไม่ได้ทำการสาธยายธรรมเท่าที่ได้สดับ

ได้ศึกษาเล่าเรียนมาโดยพิสดาร

ก็แต่ว่าภิกษุย่อมตรึกตรองใคร่ครวญธรรมเท่าที่ได้สดับ

ได้ศึกษาเล่าเรียนมาด้วยใจเธอย่อมเข้าใจอรรถ

เข้าใจธรรมในธรรมนั้น

ตามที่ภิกษุตรึกตรองใคร่ครวญธรรมตามที่ได้สดับ

ได้ศึกษาเล่าเรียนมาด้วยใจ เมื่อเธอเข้าใจอรรถ

เข้าใจธรรมย่อมเกิดปราโมทย์ ... เมื่อมีสุข จิตย่อม

ตั้งมั่น ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุแห่งวิมุตติข้อที่ ๔ ...

---------------------------------------

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง

พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีผู้อยู่ในฐานะครู

บางรูป ก็ไม่ได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ

ภิกษุก็ไม่ได้แสดงธรรมเท่าที่ได้สดับได้ศึกษาเล่าเรียนมาแก่

ชนเหล่าอื่นโดยพิสดาร

ภิกษุก็ไม่ได้สาธยายธรรมเท่าที่ได้สดับได้ศึกษาเล่าเรียนมาโดยพิสดาร

แม้ภิกษุก็ไม่ได้ตรึกตรอง ใคร่ครวญธรรมเท่าที่ได้สดับ

ได้ศึกษาเล่าเรียนมาด้วยใจ ก็แต่ว่าสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง

เธอเล่าเรียนมาด้วยดี ทำไว้ในใจด้วยดี ทรงไว้ด้วยดี แทงตลอด

ด้วยดี ด้วยปัญญา เธอย่อมเข้าใจอรรถ

เข้าใจธรรมในธรรมนั้น ตามที่เธอเล่าเรียนสมาธินิมิต

อย่างใดอย่างหนึ่งมาด้วยดี ทำไว้ในใจด้วยดี

ทรงไว้ด้วยดี แทงตลอดด้วยดี ด้วยปัญญา เมื่อ

เธอเข้าใจอรรถ เข้าใจธรรม ย่อมเกิดปราโมทย์

เมื่อเกิดปราโมทย์แล้วย่อมเกิดปีติ เมื่อมีใจเกิด

ปีติ กายย่อมสงบ ผู้มีกายสงบแล้วย่อมได้เสวยสุข

เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น

----------------------------------

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

นี้เป็นเหตุแห่งวิมุตติข้อที่ ๕

ซึ่งเป็นเหตุให้จิตของภิกษุผู้ไม่ประมาทมีความเพียร

มีใจเด็ดเดี่ยวอยู่ที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น

อาสวะที่ยังไม่สิ้น ย่อมถึงความสิ้นไป

หรือเธอย่อมได้บรรลุธรรม

อันเกษมจากโยคะชั้นเยี่ยม

ที่ยังไม่ได้บรรลุ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุแห่งวิมุตติ ๕ ประการนี้แล

ซึ่งเป็นเหตุให้จิตของภิกษุผู้ไม่ประมาท

มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยวอยู่

ที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น

อาสวะที่ยังไม่สิ้น ย่อมถึงความสิ้นไป

หรือเธอย่อมได้บรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะ

ชั้นเยี่ยม ที่ยังไม่ได้บรรลุ ฯ

จบสูตรที่ ๖

------------

พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๒

พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต

หน้าที่ ๒๐/๔๐๗ ข้อที่ ๒๖

----------------------

อ่านพุทธวจน เพิ่่มเติมได้จากโปรแกรม E-Tipitaka

http://etipitaka.com/read…

-------------------------

ศึกษา พุทธวจน(คำของพระพุทธเจ้า)ได้ที่นี่

http://www.buddhakos.org/

http://watnapp.com/

http://media.watnapahpong.org/

http://www.buddhaoat.org/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น