#ตายในสมาธิ
#ตายในฌาน ๑ ๒ ๓ ๔
ปฐมฌาน = เข้าถึงสหายของเทวดาเหล่าพร
ทุติยฌาน = เข้าถึงสหายของเทวดาพวกอาภั
ตติยฌาน = ย่อมเข้าถึงสหายของเทวดาเหล
จตุตถฌาน = ย่อมเข้าถึงสหายของเทวดาเหล
--
#ตายจากเทวดา
-- ผู้ไม่ได้สดับ--ย่อมเข้าถึง
--ผู้ได้สดับ-- ปรินิพพานในภพนั้น
--
ฌานสูตรที่ ๑
[๑๒๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้
มีปรากฏอยู่ในโลก ๔ จำพวกเป็นไฉน
คือ บุคคลบางคนในโลกนี้
สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน
มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอย
บุคคลนั้นพอใจ ชอบใจปฐมฌานนั้น
และถึงความปลื้มใจด้วยปฐมฌา
ตั้งอยู่ในปฐมฌานนั้น
น้อมใจไปในปฐมฌานนั้น
อยู่จนคุ้นด้วยปฐมฌานนั้น
ไม่เสื่อมเมื่อกระทำกาละ
ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของ
ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย กัปหนึ่ง
เป็นประมาณอายุของเทวดาเหล่
-
ปุถุชนดำรงอยู่ ในชั้นพรหมกายิกานั้น ตราบเท่าตลอดอายุ
ยังประมาณอายุทั้งหมดของเทว
ย่อมเข้าถึงนรกบ้าง กำเนิดดิรัจฉานบ้าง เปรตวิสัยบ้าง
ส่วนสาวกของพระผู้มีพระภาค
ดำรงอยู่ในชั้นพรหมนั้นตราบ
ยังประมาณอายุของเทวดาเหล่า
ย่อมปรินิพพานในภพนั้นเอง
-
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
นี้เป็นความพิเศษผิดแผกแตกต
ระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับก
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ คือ
ในเมื่อคติ อุบัติมีอยู่ ฯ
-
อีกประการหนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ บรรลุทุติยฌาน
มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
เพราะวิตกวิจารสงบไป
มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอย
บุคคลนั้นพอใจ
ชอบใจทุติยฌานนั้นและถึงควา
ตั้งอยู่ในทุติยฌานนั้น
น้อมใจไปในทุติยฌานนั้น
อยู่จนคุ้นด้วยทุติยฌานนั้น
ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๒ กัป
เป็นประมาณอายุของเทวดาเหล่
ปุถุชนดำรงอยู่ในชั้นอาภัสส
ยังประมาณอายุทั้งหมดของเทว
ย่อมเข้าถึงนรกบ้าง กำเนิดดิรัจฉานบ้าง เปรตวิสัยบ้าง
ส่วนสาวกของพระผู้มีพระภาค ดำรงอยู่ในชั้นอาภัสสระนั้น
ตราบเท่าตลอดอายุ
ยังประมาณอายุทั้งหมดของเทว
ย่อมปรินิพพานในภพนั้นเอง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แลเป็นความพิเศษผิดแผกแต
ระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับก
คือในเมื่อคติ อุบัติมีอยู่ ฯ
-
อีกประการหนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ มีอุเบกขา
มีสติสัมปชัญญะเสวยสุขด้วยน
เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌาน
ที่พระอริยะทั้งหลายสรรเสริ
เป็นผู้มีอุเบกขามีสติอยู่เ
บุคคลนั้นพอใจชอบใจตติยฌานน
และถึงความปลื้มใจด้วยตติยฌ
ตั้งอยู่ในตติยฌานนั้นน้อมใ
อยู่จนคุ้นด้วยตติยฌานนั้น
ไม่เสื่อม เมื่อกระทำกาละ
ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๔ กัป
เป็นประมาณอายุของเทวดาเหล่
ปุถุชนดำรงอยู่ในชั้นสุภกิณ
ยังประมาณอายุทั้งหมดของเทว
ย่อมเข้าถึงนรกบ้าง กำเนิดดิรัจฉานบ้าง เปรตวิสัยบ้าง
ส่วนสาวกของพระผู้มีพระภาคด
ตราบเท่าตลอดอายุ ยังประมาณอายุทั้งหมด
ของเทวดาเหล่านั้นให้สิ้นไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
นี้แลเป็นความพิเศษ ผิดแผกแตกต่างกัน
ระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับก
คือ ในเมื่อคติ อุบัติ มีอยู่ ฯ
-
อีกประการหนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ บรรลุจตุตถฌาน
ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และดับโสม
มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริ
บุคคลนั้นพอใจ ชอบใจจตุตถฌานนั้น
และถึงความปลื้มใจด้วยจตุตถ
น้อมใจไปในจตุตถฌานนั้น อยู่จนคุ้นด้วยจตุตถฌานนั้น
ไม่เสื่อม เมื่อกระทำกาละ
ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๕๐๐ กัป
เป็นประมาณอายุของเทวดาเหล่
ปุถุชนดำรงอยู่ในชั้นเวหัปผ
ตราบเท่าตลอดอายุ ยังประมาณอายุทั้งหมดของเทว
ให้สิ้นไปแล้ว
ย่อมเข้าถึงนรกบ้าง กำเนิดดิรัจฉานบ้าง เปรตวิสัยบ้าง
ส่วนสาวกของพระผู้มีพระภาค
ดำรงอยู่ในชั้นเวหัปผละนั้น
ยังประมาณอายุทั้งหมดของเทว
ย่อมปรินิพพานในภพนั้นเอง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
นี้แลเป็นความพิเศษผิดแผกแต
ระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับก
คือ ในเมื่อคติ อุบัติมีอยู่
-
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวก
มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ
จบสูตรที่ ๓
-
พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๑
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
หน้าที่ ๑๒๕/๒๔๐ ข้อที่ ๑๒๓
--
http://etipitaka.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น