วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Twilight Show - พุทธวจน - Jul 12 2014



วันเข้าพรรษา

วันเข้าพรรษา 2558 วันเข้าพรรษาปีนี้

ตรงกับวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พุทธศักราช 2558

อยู่หลังวันอาสาฬหบูชาไป 1 วัน

https://www.youtube.com/watch?v=zMDoveXCyl8

[๒๐๕] โดยสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน

อันเป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตพระนครราชคฤห์.

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคยังมิได้ทรงบัญญัติ

--

การจำพรรษาแก่ภิกษุทั้งหลาย

ภิกษุเหล่านั้นเที่ยวจาริกไปตลอดฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน.

คนทั้งหลายจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า

ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร จึงได้เที่ยวจาริก

ไปตลอดฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน

เหยียบย่ำติณชาติอันเขียวสด

เบียดเบียนอินทรีย์อย่างหนึ่งซึ่งมีชีวะ

ยังสัตว์เล็กๆ จำนวนมากให้ถึงความวอดวายเล่า

ก็พวกปริพาชกอัญญเดียรถีย์

เหล่านี้เป็นผู้กล่าวธรรมอันต่ำทราม ยังพัก

ยังอาศัยอยู่ประจำตลอดฤดูฝน

อนึ่ง ฝูงนกเหล่านี้เล่า

ก็ยังทำรังบนยอดไม้ และพักอาศัยอยู่ประจำตลอดฤดูฝน

ส่วนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรเหล่านี้

เที่ยวจาริกไปตลอดฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน

เหยียบย่ำติณชาติอันเขียวสด

เบียดเบียนอินทรีย์อย่างหนึ่งซึ่งมีชีวะ

ยังสัตว์เล็กๆ จำนวนมากให้ถึงความวอดวาย.

ภิกษุทั้งหลาย

ได้ยินคนพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา

จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถา

ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น

ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น

แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

-

เราอนุญาตให้จำพรรษา.

การจำพรรษา ๒ อย่าง

-

[๒๐๖] ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายคิดกันว่า

พวกเราพึงจำพรรษาเมื่อไรหนอ

แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.

พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย

เราอนุญาตให้จำพรรษา

ในฤดูฝน.

-

ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายคิดกันว่า

วันเข้าพรรษามีกี่วันหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.

พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย

-

วันเข้าพรรษานี้มี ๒ คือ ปุริมิกา

วันเข้าพรรษาต้น ๑ ปัจฉิมิกา

วันเข้าพรรษาหลัง ๑

เมื่อพระจันทร์เพ็ญเสวยฤกษ์อาสาฬหะ

ล่วงไปแล้ววันหนึ่ง พึงเข้าพรรษาต้น

-

เมื่อพระจันทร์เพ็ญเสวยฤกษ์อาสาฬหะ

ล่วงไปแล้วเดือนหนึ่ง

พึงเข้าพรรษาหลัง

-

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

วันเข้าพรรษามี ๒ วันเท่านี้แล.

-

พระฉัพพัคคีย์เที่ยวจาริกทุกเวลา

[๒๐๗] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์จำพรรษาแล้ว

ยังเที่ยวจาริกในระหว่างพรรษา.

คนทั้งหลายจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา

เช่นนั้นแหละว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร

จึงได้เที่ยวจาริกตลอดฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน

เหยียบย่ำติณชาติอันเขียวสด เบียดเบียน

อินทรีย์อย่างหนึ่งซึ่งมีชีวะยังสัตว์เล็กๆ

มีจำนวนมากให้ถึงความวอดวายเล่า

ก็พวกอัญญเดียรถีย์เหล่านี้

เป็นผู้กล่าวธรรมอันต่ำทราม ยังพักอาศัยอยู่ประจำตลอดฤดูฝน

อนึ่ง ฝูงนกเหล่านี้เล่า

ก็ยังทำรังบนยอดไม้แล้วพักอาศัยอยู่ประจำตลอดฤดูฝน

ส่วนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร

เหล่านี้ เที่ยวจาริกตลอดฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน

เหยียบย่ำติณชาติอันเขียวสด เบียดเบียน

อินทรีย์อย่างหนึ่งซึ่งมีชีวะ

ยังสัตว์เล็กๆ ซึ่งมีจำนวนมากให้ถึงความวอดวาย.

ภิกษุทั้งหลาย

ได้ยินคนพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา.

บรรดาที่เป็นผู้มักน้อยต่างก็เพ่งโทษ ติเตียนโพนทะนาว่า

ไฉนพระฉัพพัคคีย์จำพรรษาแล้ว

จึงได้เที่ยวจาริกระหว่างพรรษาเล่า จึงภิกษุเหล่านั้น

กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถา

ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น

แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย

-

ภิกษุจำพรรษา ไม่อยู่ให้ตลอด ๓ เดือนต้น

หรือ ๓ เดือนหลัง

ไม่พึงหลีกไปสู่จาริก รูปใดหลีกไป ต้องอาบัติทุกกฏ.

-

พระฉัพพัคคีย์ไม่จำพรรษา

[๒๐๘] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์ไม่ประสงค์จะจำพรรษา

ภิกษุทั้งหลาย จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.

พระผู้มีพระภาครับสั่งห้ามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย

ภิกษุจะไม่จำพรรษาไม่ได้ รูปใดไม่จำพรรษา ต้องอาบัติทุกกฏ.

-

สมัยต่อมา พระฉัพพัคคีย์

ไม่ประสงค์จะจำพรรษาในวันเข้าพรรษา

แกล้งล่วงเลยอาวาสไปเสีย.

ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.

พระผู้มีพระภาครับสั่งห้ามว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่ประสงค์จะจำพรรษาในวันเข้าพรรษา

ไม่พึงแกล้งล่วงเลยอาวาสไปเสีย

รูปใดล่วงเลยไปเสีย ต้องอาบัติทุกกฏ.

วันเข้าพรรษาที่พระพุทธองค์ทรงอนุญาตไว้มีอยู่ ๒ วัน คือ

๑.ปุริมิกาวัสสูปนายิกา คือ วันเข้าพรรษาแรก

ตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ไปจนถึงวันเพ็ญ กลางเดือน ๑๑

-

๒.ปัจฉิมมิกาวัสสูปนายิกา คือ วันเข้าพรรษาหลัง

ตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๙ ไปจนถึงวันเพ็ญกลางเดือน ๑๒

---

พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๔

วินัยปิฎก มหาวรรค ภาค ๑

หน้าที่ ๒๒๔ ข้อที่ ๒๐๖ - ๒๐๗

---

http://etipitaka.com/read/thai/4/224/?keywords=%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น