วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

janthaburee 20150721



จันทบุรี เสียงดีแล้วคะ ..พระอาจารย์บอก.ธรรมะยาก..ต้องตั้งใจฟัง.

.เป็นธรรมะที่จะช่วยให้เราพ้น..แก่..เจ็บ..ตาย

https://www.youtube.com/watch?v=udrkCwP4oMg

#อาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)

            (ทรงแสดงด้วยอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งภพใหม่)

    ภิกษุ ท. !  ถ้าบุคคลย่อมคิด (เจเตติ) ถึงสิ่งใดอยู่,

ย่อมดำริ (ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใดอยู่,

และย่อมมีจิตฝังลงไป (อนุเสติ) ในสิ่งใดอยู่ ;

สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ.

เมื่ออารมณ์ มีอยู่,

ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณ ย่อมมี;

เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว,

ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป ย่อมมี ;

เมื่อความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป มี,

ชาติชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย

จึงเกิดขึ้นครบถ้วนต่อไป :

ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้

ย่อมมี  ด้วยอาการอย่างนี้.

    ภิกษุ ท. !  ถ้าบุคคลย่อมไม่คิด (โน เจเตติ) ถึงสิ่งใด,

ย่อมไม่ดำริ (โน ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใด,

แต่เขายังมีใจฝังลงไป (อนุเสติ) ในสิ่งใดอยู่;

สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์  เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ.

เมื่ออารมณ์ มีอยู่,

ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณ ย่อมมี;

เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว,

ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป ย่อมมี ;

เมื่อความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป มี,

ชาติชรามรณะ  โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย

ย่อมเกิดขึ้นครบถ้วนต่อไป :

ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี

ด้วยอาการอย่างนี้.



---

- นิทาน. สํ. ๑๖/๗๘/๑๔๕.

ชุดจากพระโอษฐ์ ๕ เล่ม เล่มที่ ๒

อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาค ๑

หน้าที่ ๓๔๑

---

#อาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)

            (ทรงแสดงด้วยอารมณ์เป็นที่ก้าวลงแห่งนามรูป)



    ภิกษุ ท. !  ถ้าบุคคลย่อมคิด (เจเตติ) ถึงสิ่งใดอยู่,

ย่อมดำริ (ปกปฺเปติ)  ถึงสิ่งใดอยู่,

และย่อมมีจิตปักลงไป (อนุเสติ) ในสิ่งใดอยู่ ;

สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ.

เมื่ออารมณ์ มีอยู่,

ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณ ย่อมมี ;

เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว,

การก้าวลงแห่งนามรูป ย่อมมี ;

เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ ;

เพราะมีสฬายตนะ เป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ ;

เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา ;

เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา ;

เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ;

เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ ;

เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ ;

เพราะมีชาติเป็นปัจจัย,  ชรามรณะ

โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย

จึงเกิดขึ้นครบถ้วน :

ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี

ด้วยอาการอย่างนี้

    ภิกษุ ท. !  ถ้าบุคคลย่อมไม่คิดถึงสิ่งใด,

 ย่อมไม่ดำริถึงสิ่งใด,

แต่เขายังมีใจฝังลงไป (คือมีอนุสัย) ในสิ่งใดอยู่ ;

สิ่งนั้น ย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ.

เมื่ออารมณ์ มีอยู่,

ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณ ย่อมมี ;

เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว,

การก้าวลงแห่งนามรูป ย่อมมี ;

เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ ;

เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย  จึงมีผัสสะ ;

เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา ;

เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา ;

เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ;

เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ ;

เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ ;

เพราะมีชาติเป็นปัจจัย,  ชรามรณะ

โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลายจึงเกิดขึ้นครบถ้วน :

ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้

ย่อมมี  ด้วยอาการอย่างนี้.

-

- นิทาน. สํ. ๑๖/๗๙/๑๔๗.

-

ชุดจากพระโอษฐ์ ๕ เล่ม เล่มที่ ๒

อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาค ๑

หน้าที่ ๓๔๒

---

#อาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)

            (ทรงแสดงด้วยอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งนติ)

ภิกษุ ท. !  ถ้าบุคคลย่อมคิด (เจเตติ) ถึงสิ่งใดอยู่,

ย่อมดำริ (ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใดอยู่,

และย่อมมีใจฝังลงไป (อนุเสติ) ในสิ่งใดอยู่ ;

สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ.

เมื่ออารมณ์ มีอยู่,

ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณ ย่อมมี ;

เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว,

เครื่องนำไปสู่ภพใหม่ (นติ - ตัณหา) ย่อมมี ;

เมื่อเครื่องนำไปสู่ภพใหม่ มี,

การมาการไป (อาคติคติ) ย่อมมี ;

เมื่อการมาการไป มี,

การเคลื่อนและการบังเกิด (จุติ + อุปะปาตะ) ย่อมมี ;

เมื่อมีการเคลื่อนและการบังเกิด มี,

ชาติชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัส

อุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วนต่อไป :

ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี

ด้วยอาการอย่างนี้.

    ภิกษุ ท. !  ถ้าบุคคลย่อมไม่คิดถึงสิ่งใด,

ย่อมไม่ดำริถึงสิ่งใด,

แต่เขายังมีใจปักลงไปในสิ่งใดอยู่ ;

สิ่งนั้น ย่อมเป็นอารมณ์  เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ.

เมื่ออารมณ์ มีอยู่,

ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณ ย่อมมี ;

เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว,

เครื่องนำไปสู่ภพใหม่ (นติ - ตัณหา) ย่อมมี ;

เมื่อเครื่องนำไปสู่ภพใหม่ มี,

การมาการไป (อาคติคติ) ย่อมมี ;

เมื่อการมาการไปมี,

การเคลื่อนและการบังเกิด (จุติ+อุปะปาตะ) ย่อมมี ;

เมื่อการเคลื่อนและการบังเกิดมี,

ชาติชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย

จึงเกิดขึ้นครบถ้วนต่อไป :

ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้

ย่อมมี  ด้วยอาการอย่างนี้.

-

            - นิทาน. สํ. ๑๖/๖๘๐/๑๔๙

-

ชุดจากพระโอษฐ์ ๕ เล่ม เล่มที่ ๒

อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาค ๑

หน้าที่ ๓๔๓

-

http://etipitaka.com/read/thaibt/2/341/?keywords=%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%20%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%20%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%94

-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น